Select Page

วันนี้ (5 ตุลาคม 2565) ที่ สโมสรทหารบก (ส่วนกลาง) วิภาวดี กรุงเทพมหานคร พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 39 โดยมี นายอารีย์ วงศ์อารยะ รองประธานคณะกรรมการอำนวยการโครงการ “สานใจไทย สูใจใต้” พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าร่วม และ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำศาสนา ตลอดจนเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เข้าร่วมโครงการ ร่วมในพิธีเปิดในครั้งนี้

พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ กล่าวว่า โครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นนี้ก็นับว่าเป็นรุ่นที่ 39 แล้ว รวมระยะเวลาประมาณ 18 ปี ที่ผ่านมา ก็ถือได้ว่า เรามีเยาวชนรุ่นใหม่ๆที่มาร่วมกันในโครงการนี้เป็นจำนวนมาก ปีนี้มีสมาชิกเข้าร่วมโครงการกว่า 300 คน ซึ่งเชื่อว่า เราทุกคน ไม่ว่าจะมีความเชื่อและความศรัทธาในศาสนาของตนที่แตกต่างกันอย่างไร แต่เราทุกคน มีความรัก ความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกัน ที่จะได้ร่วมกันสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ขอให้เยาวชนสานใจไทย สู่ใจใต้ทุกคน ได้ร่วมใจกันเป็นพลังความสามัคคี เป็นพลังแห่งความดี ที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และช่วยกันนำพาความดีเหล่านี้มาสู่ประเทศไทยของเราขอให้ทุกคนได้ใช้โอกาสนี้ ทำเพื่อแผ่นดินไทย สมดังคำที่ว่า เกิดมาต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน

สำหรับการดำเนินการโครงการ สานใจไทย สู่ใจใต้ เกิดขึ้นโดยดำริของ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ โดยการสนับสนุนจากคณะกรรมการของมูลนิธิรัฐบุรุษ นำเยาวชนจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ มาใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวอุปถัมภ์ในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้สภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวอุปถัมภ์ และชุมชนสังคมพหุวัฒนธรรม ทำให้เยาวชนได้รับประสบการณ์ตรง และมีความรู้ ความเข้าใจ บริบทของสังคมประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา โดยได้ดำเนินการมาแล้ว 38 รุ่น มีเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 8,985 คน ครอบครัวอุปถัมภ์ จำนวน 4,003 ครอบครัว สำหรับรุ่นนี้เป็นการนำเยาวชนจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา และสตูล จำนวนทั้งสิ้น 320 คน เข้าร่วมกิจกรรม โดยประกอบด้วยเยาวชนที่นับถือศาสนาอิสลาม 272 คน นับถือศาสนาพุทธ 47 คน และนับถือศาสนาคริสต์ 1 คน มาร่วมกิจกรรมระหว่างวันที่ 30 กันยายน ถึง 27 ตุลาคม 2565 กิจกรรมที่จัดให้แก่เยาวชน ได้แก่ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตและการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม มีการจัดทัศนศึกษา แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ เชื่อมโยงกับสังคมวัฒนธรรมในอดีตสู่ปัจจุบัน กิจกรรมค่ายพหุวัฒนธรรมสมานฉันท์ โดยกรมการปกครอง กิจกรรมค่ายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโดยอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กิจกรรมค่ายประวัติศาสตร์ โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา และ กิจกรรมเปิดโลกการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ นอกจากนั้นเยาวชน จะได้พำนักกับครอบครัวอุปถัมภ์ในระหว่างวันที่ 5- 19 ตุลาคม 2565 ในพื้นที่ชุมชน พหุวัฒนธรรม 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานครพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สระบุรี นครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี และ นนทบุรี

อย่างไรก็ตามเยาวชนที่ผ่านโครงการได้พัฒนาทัศนคติแนวคิดสู่การพัฒนาตนเองและครอบครัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งการร่วมประสานกับหน่วยงานในพื้นที่เพื่อร่วมกันพัฒนาสาธารณประโยชน์ นอกจากนี้เครือข่ายเยาวชนได้รวมตัวกันเป็นสมาคมเยาวชน “สานใจไทย สู่ใจใต้” และชมรมเยาวชน “สานใจไทย สู่ใจใต้” 5 จังหวัด โดยมีเป้าหมายร่วมกันเพื่อพัฒนาสังคม ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีความสงบร่มเย็น ตามอุดมการณ์ของ ฯพณฯ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่ว่า “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน”

นอกจากนี้ก่อนพิธีเปิดโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 39 พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้ร่วมเป็นเกียรติในพิธีมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยฟาฏอนี แด่ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการโครงการ “สานใจไทย สูใจใต้” ณ ห้องชมัยมรุเชฐ ชัน 3 สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี อีกด้วย

 6,642 total views,  1 views today