Select Page

เมื่อวันที่ (26 มีนาคม 2563) นางสาววิภาวี แซ่ลก บัณฑิตอาสาฯ บ้าน กม.19 หมู่ที่ 5 ตำบลตาเนาะแมเราะ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา รายงานว่า บัณฑิตอาสาฯ ตำบลตาเนาะแมเราะ ทุกหมู่บ้าน ร่วมประชุมกับ นางสาวบุศริน เถาวัลย์ ปลัดอำเภอหัวหน้าตำบลตาเนาะแมเราะ นายธารทอง ห่อวงศ์สกุล ปลัดอำเภอผู้ช่วยปลัดตำบลตาเนาะแมเราะ พร้อมด้วย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตาเนาะแมเราะ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ฯ จนท. อสม. ณ องค์การบริหารส่วนตำบลตาเนาะแมเราะ เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัส COVID -19 ในระดับตำบล/ หมู่บ้าน และติดตามการดำเนินการตามมาตรการยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในพื้นที่ รวมถึงการติดตามตรวจสอบข้อมูลบุคคลที่เป็นบุคคลที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศและจังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยงต่างๆ เพื่อให้เฝ้าระวัง ควบคุม สังเกตุอาการ ให้กักกัน/กักขังตัวไว้ในระยะ 14 วัน ที่ประชุมได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหมู่บ้าน พูดคุยถึงปัญหาอุปสรรคในการทำงานเพื่อหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน รวมซักซ้อมความเข้าใจในการส่งรายงานข้อมูลผู้ที่เดินทางเข้าหมู่บ้าน/ชุมชน ของแต่ละหมู่บ้านในแต่ละวันให้อำเภอทราบ เพื่อดำเนินการในขั้นต่อไป และนายกองค์การบริหารส่วนตำบลตาเนาะแมเราะได้มอบหน้ากากอนามัย(แมส)ให้ผู้เข้าร่วมประชุมอีกด้วย

ด้านบัณฑิตอาสาฯ ในพื้นที่ได้ลงพื้นที่สำรวจ แนะนำ สร้างความเข้าใจแก่ชาวบ้านอย่างต่อเนื่องทั้งในด้าน  การใช้หน้ากากอนามัย(แมส)ป้องกัน   การใช้เจลล้างมือ  แนะนำวิธีการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงและงดออกจากบ้านหรือพื้นที่ที่มีผู้คนจำนวนมาก หากมีความจำเป็นจริงๆให้มีการป้องกันดังกล่าว รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านรับทราบถึงประกาศคำสั่ง ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ให้ปฎิบัติอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ ตามที่มีประกาศจากจุฬาราชมนตรี เรื่อง  มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ว่าด้วยเรื่อง  การละหมาดญะมาอะห์  การละหมาดวันศุกร์(ญุมอะฮ์)  ที่มัสยิด  และการจัดกิจกรรมกลุ่มญะมาอะห์ตับลีฆ และการจัดการกับศพ (มัยยิต) (ฉบับที่ 3/2563)  สำนักงานจุฬารัฐมนตรีจึงขอให้สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั่วประเทศประกาศให้ทุกมัสยิดในสังกัด ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัส COVID -19 คือ งดการละหมาดญะมาอะห์และการละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะห์) ที่มัสยิดเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวจะมีสถานการณ์ในทางที่ดีขึ้น โดยให้สัปบุรุษละหมาดดุฮ์ริ 4 รอกาอัต ที่บ้านแทน ทั้งนี้ การละหมาดวันศุกร์ในสถานการณ์เกิดโรคระบาดร้ายแรง ถือเป็นอุปสรรคที่อนุโลมให้งดเว้นการละหมาดวันศุกร์นั้นได้ ตลอดจนให้กลุ่มญะมาอะห์ตับลีฆงดกิจกรรมทุกประเภท ทั้งในและต่างประเทศ

และวันนี้ (27 มีนาคม 2563 ) ซึ่งเป็นวันศุกร์ สถานการณ์ ณ มัสยิดในพื้นที่ มีเพียงสัปบุรุษออกมาละหมาดที่มัสยิดเพียงบางส่วนเท่านั้น ไม่สามารถทำการละหมาดญุมอะห์ได้ แต่มีการละหมาดซุฮรีคือละหมาดตามเวลาปกติเพียงเท่านั้น สัปปุรุษมีประมาณ 7-10 คน และในบางพื้นที่ไม่มีการละหมาดวันศุกร์แต่ยังใด เป็นการปฎิบัติตามประกาศจากจุฬาราชมนตรี ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัส COVID -19

 

 217 total views,  1 views today