รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ยะลา ส่งมอบต้นพันธุ์กาแฟ “อะราบิกา แดนดินกาแฟใต้” เพื่อสร้างรายได้ และให้เกษตรกรในพื้นที่ จชต. มีอาชีพที่มั่นคง

วันนี้ (14 พฤศจิกายน 2562) ณ ศูนย์วิจัยพืชสวนยะลา อ.ธารโต จ.ยะลา พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วย  ว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานส่งมอบต้นพันธุ์กาแฟ “อะราบิกา แดนดินกาแฟใต้” ภายใต้โครงการเมืองต้นแบบ สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการ จ.ยะลา นายชนธัญ แสงพุ่ม ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม

ทั้งนี้การมอบต้นพันธุ์กาแฟดังกล่าว เป็นการส่งมอบให้กับตัวแทนเกษตรกรในพื้นที่นำไปปลูก เพื่อให้เกษตรกรที่มีพื้นที่ทำการเกษตรบนพื้นที่สูง มีอากาศหนาวเย็น โดยเฉพาะที่อำเภอธารโตและอำเภอเบตง ได้ปลูกกาแฟเป็นพืชทางเลือก เพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่ มีอาชีพที่มั่นคง โดยกรมวิชาการเกษตรได้ตรวจสอบพบว่ากาแฟของจังหวัดยะลามีคะแนนคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดี มีฟองครีมหนา มีกลิ่นหอมของถั่ว รสเปรี้ยวของมะนาว รสชาติอยู่ในกลุ่ม Brown Sugar ซึ่งไม่พบในกาแฟที่ปลูกจากแหล่งอื่น โดยในห้วงที่ผ่านมาได้มีการทำการมอบพันธุ์กล้ากาแฟโรบัสต้าไปแล้ว จำนวน 20,000 ต้น ให้กับประชาชนที่มีความสนใจและพร้อมดำเนินการปลูกในพื้นที่ ซึ่งคาดว่าในปี 2563 ต้นกาแฟจะเริ่มออกดอกและจะสามารถเก็บผลผลิตได้ในปลายปี 2563 และกิจกรรมในวันนี้เป็นการส่งมอบต้นพันธุ์กาแฟอะราบิกา  จำนวน 200,000 ต้น ซึ่งรับมาจากศูนย์วิจัย เกษตรหลวงเชียงใหม่

พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นปัญหาที่มีมาอย่างยาวนาน มีความซับซ้อนเชื่อมโยงกันในหลายมิติ ซึ่งงานด้านการพัฒนาเป็นงานที่สำคัญส่วนหนึ่งที่จะส่งผลให้สถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ยุติลง หากทำให้ประชาชนมีความอยู่ดีกินดี รัฐบาลได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหา ซึ่งโครงการเมืองต้นแบบ สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นหนึ่งในโครงการที่ช่วยในการแก้ไขปัญหา โดยการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในจังหวัดชายแดนภาคใต้

สำหรับโครงการนี้ ได้จัดทำขึ้นมาอย่างเป็นระบบ เริ่มจากเป็นความต้องการของประชาชน มีการส่งเจ้าหน้าที่ไปเข้ารับการอบรม การเพาะต้นกล้ากาแฟ เพื่อให้ส่วนราชการในพื้นที่ สามารถเพาะขยายพันธุ์ได้เอง มีการจัดอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรในเรื่องการปลูก การดูแลบำรุงรักษาต้นกาแฟอย่างถูกวิธี รวมทั้งภาคเอกชนได้เตรียมที่จะรับซื้อและแปรรูปผลผลิตเองในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยทำให้เกษตรกร มีความเข้มแข็งในเรื่องการปลูกกาแฟ สร้างรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น ส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน