Select Page

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 ที่เรือนจำกลางปัตตานี อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมให้ขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ และผู้ต้องขังในเรือนจำกลางปัตตานี พร้อมประชุมรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ถึงโอกาสในการศึกษาเรียนรู้ และพัฒนาผู้ต้องขังให้กลับคืนสู่สังคมและหาเลี้ยงชีพได้ต่อไป โดยมี พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) รศ.ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฎอนี ตลอดจน ผู้บัญชาการเรือนจำกลางปัตตานี ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนราธิวาส ผู้บัญชาการเรือนจำกลางยะลา เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ

โอกาสนี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวให้โอวาทและสื่อสารส่งมอบความรักความห่วงใยแก่ผู้ต้องขังว่า ถึงแม้ว่าการที่เราได้เข้ามาอยู่ในราชทัณฑ์แห่งนี้แต่เรื่องอุดมการณ์ ความเชื่อ ควรส่งเสริม ซึ่งให้คิดว่าเราได้มาอยู่ในมหาวิทยาลัยชีวิต ความผิดพลาดในครั้งนี้ทุกคนมีโอกาสผิดพลาดได้ ซึ่งเมื่อผิดพลาดแล้วอย่าให้ผิดพลาดครั้งที่สองอีก เพราะในเรือนจำไม่ได้อยู่ได้ตลอดชีวิต เราก็มีวันออกขอให้ช่วงเวลาที่เราได้อยู่ในเรือนจำเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส ซึ่งเราไม่ได้มองว่าทุกคนด้อยกว่าเรามองว่าเป็นพี่เป็นน้องกันหมดทุกคน เรามีแต่ความหวังดีเพราะทุกคนก็ล้วนเป็นความหวังของครอบครัวเช่นกัน

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวอีกว่า ในวันนี้ได้เดินทางมาให้กำลังใจผู้ต้องราชทัณฑ์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องขังที่เป็นมุสลิม และเป็นคดีในเรื่องของยาเสพติด และสิ่งที่น่าเป็นห่วงแก่ผู้ต้องขังประมาณ 30% มีการศึกษาต่ำกว่าประถม และเกือบ 70% ต่ำกว่ามัธยมต้น ดังนั้นปัญหาในเรื่องของการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ ศึกษาธิการภาค ศอ.บต. และสถาบันในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เร่งหารือด้านการศึกษาอย่างจริงจัง อย่างน้อยผู้ต้องขังควรได้รับการศึกษาไม่ต่ำกว่าภาคบังคับ แต่ในบทบาทของกระทรวงยุติธรรม บทบาทของกรมราชทัณฑ์ เราจะต้องยกฐานะ อย่างน้อยเมื่อออกจากเรือนจำต้องจบการศึกษาภาคบังคับให้ได้ และต้องได้รับการพัฒนาไม่งั้นก็จะเกิดการวนเวียนกลับเข้าเรือนจำ ซึ่งเป็นปัญหาที่มีมานาน และอยากให้ทุกคนให้โอกาส เพราะทุกคนก้าวพลาดได้

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมหาวิธีแก้ปัญหาพร้อมกันโดยมอบหมายให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ประสานไปยังมหาวิทยาลัยในพื้นที่ เพื่อเตรียมหลักสูตรแก่ผู้ต้องขังให้ศึกษาเล่าเรียนจนจบปริญญา และด้านเรือนจำกลาง แนะให้สร้างงาน สร้างอาชีพ แก่ผู้ต้องขัง เพื่อให้มีรายได้ก่อนที่จะพ้นโทษออกไปทุกคนต้องมีเงินเก็บ เพื่อสร้างฐานะให้มั่นคง นอกจากนี้ ด้านอธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ได้แนะนำรายวิชาสันติศึกษา เข้ามาสอนให้เรือนจำกลาง และเชื่อว่าเป็นรายวิชาที่ใครได้ศึกษาแล้ว จะไม่หวนกลับไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งผิดกฏหมายอีกครั้ง

 101 total views,  2 views today