Select Page

วันนี้ (15 มกราคม 2567) ณ ศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.เมือง จ.ยะลา พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานกรรมการมูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมสัมมนาขับเคลื่อนสมาคม “สานใจไทย สู่ใจใต้” พร้อมมอบนโยบาย การขับเคลื่อนโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” และปาฐกถา เรื่อง โครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” สู่การเสริมสร้างสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยภายในงานมี นายอารีย์ วงศ์อารยะ ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิ “สานใจไทย สู่ใจใต้” พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัดใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายอำเภอใน 4 จังหวัดจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ผู้แทนส่วนราชการจังหวัด นายกสมาคมสถาบันปอเนาะจังหวัดชายแดนภาคใต้ คณะทำงานสนับสนุนโครงการ สานใจไทย สู่ใจใต้ ระดับพื้นที่ เยาวชนเครือข่ายสานใจไทย สู่ใจใต้ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ กล่าวในตอนหนึ่งว่า โครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ ได้สร้างแรงบันดาลใจ ที่จะให้เยาวชนมีความมุ่งมั่นที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า โดยมีเส้นทางที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน อุดมศึกษาเป็นทางเลือกหนึ่ง แต่ควรวางน้ำหนักการศึกษาในด้านวิชาชีพให้มากขึ้นด้วย เรื่องของงานด้านวิชาชีพเป็นส่วนสำคัญอีกด้านหนึ่งที่อยากฝากผู้ใหญ่ทุกคนว่าอย่ามองข้าม เรื่องการเรียนรู้ด้านวิชาชีพนั้นปรับเปลี่ยนได้เสมอ เรียนได้ตลอดชีวิตของเราเอง ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของเราได้ตามความถนัด ตามความจำเป็นของเราเอง ทางชมรมปอเนาะอยากจะฝากให้มองในเรื่องวิชาชีพประกอบไปด้วย เรื่องของศาสนาเป็นเรื่องหลัก เสริมด้วยเรื่องของการศึกษาด้านสายสามัญและถ้าหากว่ามีสายวิชาชีพด้วย ซึ่งเป็นการประกอบอาชีพโดยสุจริตแล้วไม่ว่าศาสนาใดถือว่าเป็นการปฎิบัติที่ถูกด้วยกันทั้งสิ้น ถ้าให้เยาวชนของเราได้มีโอกาส ได้เรียนรู้ ตามความชอบ ตามความถนัดก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง แนวทางการดำเนินงานของสานใจไทย สู่ใจใต้ เปิดโอกาสให้เยาวชนได้เข้าใจตัวเอง ได้มีเป้าหมายในตัวเอง ว่าควรไปทางไหน ตัดสินใจด้วยตัวเอง มีความรับผิดชอบ มีความกล้าที่จะเดินไปด้วยย่างก้าวของตัวเอง เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการทุกคนตระหนักดีว่าโครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ เป็นโครงการที่ดี ที่จะช่วยส่งเสริมให้มีโอกาสที่ดีต่อไปในอนาคต การที่จะสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองของเราอยู่ที่พวกเราทุกคนจะต้องช่วยกัน โครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ เป็นเพียงเสี้ยวเล็กๆ เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่จะได้ช่วยกันสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงส่วนย่อยแต่ก็เป็นส่วนย่อยที่มีพลัง ที่จะสามารถสร้างแรงกระเพื่อมให้กับสภาพทางสังคมในพื้นที่ภาคใต้ได้ เป็นส่วนที่ทำให้สันติสุขสามารถเกิดขึ้นได้

สำหรับโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” เป็นดำริของ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนที่มีความประพฤติดี เรียนดี แต่ขาดโอกาส เข้ามามีบทบาทและมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีเยาวชนที่ผ่านการเข้าร่วมโครงการฯ แล้ว 41 รุ่น จำนวน 9,945 คน ปัจจุบันได้มีการจัดตั้งเป็นสมาคมเยาวชน “สานใจไทย สู่ใจใต้” เพื่อเป็นแกนหลักประสานเชื่อมโยงการขับเคลื่อนงานระหว่างกลุ่มเยาวชนด้วยกัน และระหว่างกลุ่มเยาวชนกับหน่วยงานภายนอก ทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งเป็นการพัฒนาต่อยอดการขับเคลื่อนงานเยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยกิจกรรมสัมมนาขับเคลื่อนสมาคมเยาวชน “สานใจไทย สู่ใจใต้” ในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อพัฒนาศักยภาพสร้างความเข้มแข็งให้สมาคมฯ และการร่วมกันกำหนดแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนงานของสมาคมฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ให้มีความชัดเจนเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม โดยมีกลุ่มเป้าหมาย 198 คน ประกอบด้วย คณะทำงานสนับสนุนโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” ระดับพื้นที่ 50 คน ผู้ร่วมรับมอบนโยบายการขับเคลื่อนงาน จำนวน 148 คน อาทิ ผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัดใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายอำเภอใน 4 จังหวัดจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้แก่ อำเภอเทพา สะบ้าย้อย จะนะ และนาทวี โดยกำหนด จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 – 16 มกราคม 2567 ณ ห้องประชุมชั้น 2 ศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้

ทั้งนี้กิจกรรมในช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น มีกิจกรรมที่สำคัญ ได้แก่ พิธีลงนามบันทึกความร่วมมือระหว่าง ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กับ มูลนิธิ “สานใจไทย สู่ใจใต้” ในเจตนารมณ์ร่วมขับเคลื่อนโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” การเสวนาทิศทางการขับเคลื่อนโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” และการเชื่อมโยง “ปอเนาะสานใจ สู่การพัฒนา” โดยได้รับกียรติจากวิทยากรสำคัญ อาทิ นายอารีย์ วงศ์อารยะ ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิ “สานใจไทย สู่ใจใต้” ผู้แทนปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนอธิบดีกรมการปกครอง ผู้แทนอธิบดีกรมการค้าภายใน คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และนายกสมาคมสถาบันปอเนาะจังหวัดชายแดนภาคใต้

 168 total views,  1 views today