Select Page

วันที่ 10 สิงหาคม 2565 ที่ ห้องประชุมดาหลา กองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา นางสุนิสา รามแก้ว ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กรมประชาสัมพันธ์ ร่วมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และกองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ รายงานผลการปฏิบัติงานและการแก้ไขปัญหาการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ 3 ฝ่าย ในห้วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา

นางสุนิสา รามแก้ว ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. เปิดเผยว่า ศอ.บต. ในฐานะหน่วยหนุนเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิต ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งในห้วงที่ผ่านมาได้มีการขับเคลื่อนงานในหลายมิติทั้งด้านเศรษฐกิจ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน เช่น การส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่หันมาปลูกพืชกาแฟ เนื่องจากปัจจุบันเป็นพืชเศรษฐกิจที่ได้รับความนิยมและสามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้เป็นอย่างดี ในการนี้ศอ.บต. จึงได้จับมือกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ และฝ่ายธุรกิจคาเฟ่อเมซอน บริษัท ปตท.น้ำมัน และการค้าปลีกจำกัด (มหาชน) ร่วมกันขับเคลื่อนและพัฒนากาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลเขาแดง อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ซึ่งถือเป็นจุดกำเนิดกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าแห่งแรกของประเทศไทย ส่งเสริมให้เกษตรกรขยายแปลงปลูกกาแฟมากขึ้น เพราะพื้นที่แห่งนี้นอกจากจะมีสายพันธุ์กาแฟโรบัสต้าทั่วไปแล้ว ยังมีต้นกาแฟสายพันธุ์ยอดดำที่มีเฉพาะพื้นที่ตำบลเขาแดงเท่านั้น ศอ.บต.จึงได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ขยายผลด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื้อคาดว่าปลายปีนี้จะมีต้นกาแฟโรบัสต้าสายพันธุ์ยอดดำ กว่า 100,000 ต้น แจกจ่ายให้กับเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นำไปขยายผลและทำให้พื้นที่แห่งนี้เป็นแหล่งปลูกกาแฟสายพันธุ์ยอดดำได้ในอนาคต นอกจากนี้ศอ.บต.ยังได้นำผู้แทนจากบริษัทคาเฟ่อเมซอนเข้ามาดูพื้นที่ และให้ความรู้ ข้อแนะนำต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพและคาดว่าช่วงปลายปีนี้ทางบริษัทคาเฟ่อเมซอนจะรับซื้อกาแฟโรบัสต้า ถือเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาดและสร้างความเชื่อมมั่นให้กับเกษตรกรในพื้นที่ต่อไป ขณะเดียวกันรัฐบาลโดยดร.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ (ด้านการมีส่วนร่วม) ได้เดินทางลงพื้นที่เยี่ยมชมกาแฟดำถ้ำคอก เตรียมผลักดันและสนับสนุนให้เป็นสินค้า GI และสามารถยกระดับผลิตภัณฑ์สู่สากลได้ พร้อมกันนี้ยังได้ผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นกาแฟโรบัสต้าของเกษตรกรในพื้นที่ มอบให้แก่นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาอีกด้วย

นอกจากนี้ศอ.บต.ยังได้มีการขับเคลื่อนโครงการให้แก่เด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จัดสรรงบประมาณ ตามมติคณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ซึ่งมีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานฯ กพต. เพื่อดำเนินการขับเคลื่อนภายใต้โครงการส่งเสริมสร้างสังคมคนดีและการอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดำเนินการจัดหาอาหารกลางวันให้กับนักเรียนในโรงเรียนตาดีกาและโรงเรียนสอนพุทธศาสนิกชนของเด็กและเยาวชนในช่วงวันเสาร์ – อาทิตย์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ซึ่งมีนักเรียนรวมกว่า 130,000 คน ศอ.บต.จึงได้เสนอกรอบแนวทางเพื่อขอรับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลภายใต้โครงการตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน จำนวนกว่า 75,000,000 บาท กระจายให้กับโรงเรียนตาดีกาในพื้นที่จำนวน 1,864 แห่ง นอกจากนี้ในส่วนของเด็กเยาวชนของโรงเรียนสอนพุทธศาสนิกชนนั้น ศอ.บต. ได้ประชุมหารือร่วมกับวัฒนธรรมจังหวัดและสำนักงานพระพุทธศาสนา ดำเนินการจัดกิจกรรมค่ายพุทธบุตร อบรมให้ความรู้เกี่ยวข้องกับหลักคำสอนศาสนา และความรู้ด้านอื่นๆ โดยมีกำหนดจัดในห้วงเดือนสิงหาคม 2565 นี้ เชื่อมั่นว่าหากเด็กและเยาวชนได้รับการขัดเกลาด้วยหลักคำสอนของศาสนาจะสามารถเติบโตและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้อย่างแน่นอน

อีกทั้งในห้วงที่ผ่านมาศอ.บต. ยังได้มีการขับเคลื่อนงานภายใต้โครงการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้มีการตั้งเป้าหมายให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้พ้นเกณฑ์จากความยากจน โดยศอ.บต.ได้ร่วมกับศูนย์ขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยในระดับจังหวัด/อำเภอ และมอบหมายให้ข้าราชการ/เจ้าหน้าที่ ศอ.บต. ที่รับผิดชอบครัวเรือนยากจน ร่วมกับทีมปฏิบัติการตำบล พัฒนากรผู้รับผิดชอบตำบล บัณฑิตอาสาพัฒนามาตุภูมิ สำรวจข้อมูลรายครัวเรือนพร้อมกำหนดแนวทางการให้ความช่วยเหลือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละจังหวัดตามฐานข้อมูล TPMAP 5 มิติ ได้แก่ มิติรายได้ มิติสุขภาพ มิติความเป็นอยู่ มิติการศึกษา และมิติการเข้าถึงการบริการภาครัฐ

สำหรับครัวเรือนเป้าหมายนำร่องในปีงบประมาณ 2565 มีจำนวนทั้งหมด 410 ครัวเรือน ประกอบด้วยจังหวัดยะลา มีจำนวนครัวเรือนเป้าหมาย 144 ครัวเรือน จังหวัดนราธิวาส 109 ครัวเรือน จังหวัดปัตตานี 83 ครัวเรือน จังหวัดสตูล 38 ครัวเรือน และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา 36 ครัวเรือน โดยเฉพาะในมิติรายได้ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณกว่า 17,000,000 บาท ได้รับการอนุมัติแล้วจำนวน 244 ครัวเรือน ผ่านโครงการตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน คาดว่าในห้วงเดือนกันยายน 2565 นี้ จะสามารถนำเงินไปพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนครัวเรือนละไม่เกิน 100,000 บาท นอกจากนี้ในส่วนของมิติสุขภาพ มิติความเป็นอยู่ มิติการศึกษา และมิติการเข้าถึงการบริการภาครัฐนั้น ขณะนี้ได้มีการหารือร่วมกับคณะทำงานฯ สำรวจความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อส่งต่อให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลตามขั้นตอน อีกทั้งในปี 2566 นี้ คาดว่าจะมีการขยายครัวเรือนเป้าหมายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพิ่มขึ้นเป็น 700 ครัวเรือน ซึ่งมีความต้องการให้ได้รับการแก้ไขอย่างครอบคลุมทุกมิติ

ทั้งหมดนี้รัฐบาลนำโดยศอ.บต. มุ่งหวังที่จะแก้ไขปัญหาและยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้ทุกคนมีอาชีพ มีรายได้ และพ้นเกณฑ์ความยากจนอย่างยั่งยืน

 319 total views,  1 views today