Select Page

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 เวลา 10.15 น. ที่ผ่านมา กลุ่มตัวแทนเยาวชนและประชาชนในพื้นที่อำเภอจะนะ เดินทางมายื่นหนังสือ ที่เขียนด้วยลายมือ จำนวน 13 ฉบับ ถึงนายกรัฐมนตรี ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อแสดงเจตนาขอสนับสนุนให้มีการพัฒนาในพื้นที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ภายใต้ โครงการเมืองต้นแบบ “นิคมอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” เพราะเชื่อว่าจะสามารถสร้างรายได้ และสร้าง ความเจริญให้แก่ครอบครัวและชุมชนได้ โดยเฉพาะเพื่อนๆในชุมชนจำนวนมากที่ครอบครัวมีฐานะยากจนไม่สามารถส่งเสียให้ไปเรียนได้ พ่อแม่หลายคนต้องไปทำประมง และไปเป็นลูกจ้างตามร้านอาหารที่ประเทศ มาเลเซีย เนื่องจากการออกทะเลอย่างเดียวรายได้ไม่แน่นอนและไม่เพียงพอกับสิ่งที่ต้องมาเลี้ยงดูที่บ้าน

ทั้งนี้ได้แสดงความรู้สึกเป็นห่วงไคเรียะ ระหมันยะ ซึ่งเป็นเพื่อนจากตำบลนาทับที่ขึ้นมายื่นหนังสือคัดค้าน โครงการ เพราะกังวลว่าจะไปเป็นเครื่องมือทางกลุ่ม NGO หรือเครื่องมือทางการเมือง เพราะทุกคนล้วน รักบ้านเกิดของตัวเองไม่น้อยไปกว่าคนอื่น เนื่องจากทุกคนเกิดและเติบโตในพื้นที่ โดยมี นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับหนังสือ

ด้านนางสาว อุบลวรรณ สอโซ๊ะ ผู้แทนเยาวชนตำบลนาทับ ฝากถึงนายกรัฐมนตรีว่า “หนูไม่อยากให้หมู่บ้านของหนู พลาดโอกาสดีๆ ที่จะเข้ามาทำให้ชุมชนของเราดีขึ้น ทั้งด้านการศึกษา โอกาสและความก้าวหน้าในการทำงาน การเงิน การกิน และการเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ถ้าในชุมชนมีการศึกษาที่มากขึ้น มีงานทำ ปัญหาทางสังคมก็จะ ลดน้อยลง หนูอยากให้ธรรมชาติที่บ้านหนูเติบโตไปพร้อม ๆ กับอุตสาหกรรมที่มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”

นอกจากนี้ นายณัฐวุฒิ หนึ่งในเยาวชนคนที่มายื่นหนังสือสนับสนุนให้การมีการพัฒนา ฝากถึงนายกรัฐมนตรีว่า “อยากให้คนที่ไม่ศึกษา ที่ตกงาน มีงานทำที่ดีเป็นหลักเป็นแหล่ง สำหรับคนที่เรียนอยู่ไม่มีทุนการศึกษาอยาก ให้มีทุนการศึกษา สำหรับคนที่ว่างงาน คนในชุมชนจะได้มีงานอื่นทำ นอกจากทำประมง ครอบครัวที่ทำงานอยู่ ไกล เช่นต่างจังหวัด  หรือต่างประเทศจะได้กลับมาทำงานที่บ้านหรือใกล้ๆบ้าน เพื่อได้อยู่กับครอบครัว”

จากนั้น เวลา 11.30 น. ได้เดินทางไปยังรัฐสภาแห่งใหม่ เพื่อยื่นหนังสือถึง ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ ข้อมูลว่าโครงการดังกล่าวไม่ได้มีการปิดกั้นการมีส่วนร่วมของประชาชนแต่งอย่างใด นางมณี  อนันทบริพงศ์ ในฐานะประธานสภาองค์กรชุมชนตำบลสะกอม และเป็นผู้ร่วมขับเคลื่อนการสร้างการรับรู้และการสร้างความ เข้าใจให้แก่ชาวบ้าน มาตลอดระยะเวลากว่า 1 ปี ตั้งแต่มีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 นอกจากนี้ ฝากเรียกร้องให้ ประธานสภาผู้แทนราษฎร “พิจารณาให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคน แสดงบทบาทตามอำนาจหน้าที่อย่างเหมาะสมและเป็นกลาง รับฟังความเห็นชอบของชุมชนทุกฝ่ายอย่างรอบด้าน และไม่ใช้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ไปเป็นเครื่องมือทางการเมือง”

ขณะที่นางมณีฯ ทิ้งท้ายว่า ขอเรียกร้องให้สื่อทำหน้าที่อิงประโยชน์สูงสุดให้ประชาชน อยู่เคียงข้างประชาชน ชวนลงพื้นที่มารับฟังเสียง สะท้อน ข้อเท็จจริงจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าคิดเห็นอย่างไร อยากให้มาช่วยรับฟังและสะท้อนสิ่งที่ชาวบ้าน คิดเห็นและความรู้สึก ไม่อยากให้นำเฉพาะเรื่องความขัดแย้งของพื้นที่ ซึ่งมีอยู่ไม่มากมานำเสนออยู่ด้านเดียว

 456 total views,  1 views today