Select Page

จังหวัดยะลาได้ออกมาตรการลดการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID – 19  ในพื้นที่เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา โดยเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดยะลา จึงมีคำสั่งที่ 1750/2563 ลงวันที่ 26 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา เพื่อกำหนดให้ผู้ที่อยู่ภายในเขตพื้นที่จังหวัดยะลาหรือประสงค์ที่จะเดินทางเข้ามาในเขตพื้นที่จังหวัดยะลา ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากอนามัยแบบผ้า เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID – 19 นั้น เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาทของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโรค COVID – 19 ยังขยายวงกว้างในหลายพื้นที่และมีจำนวนผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องประกอบกับยังคงมีประชาชนในหลายพื้นที่ขาดความตระหนักในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID – 19 เพื่อลดการแพร่ระบาดและเป็นไปตามข้อ 11 แห่งข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา โดยเห็นชอบของคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 จังหวัดยะลา อาศัยอำนาจตามมาตรา 14 (6) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 จึงให้ปฏิบัติดังนี้คือ ให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดยะลา สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากอนามัยแบบผ้าทุกครั้งก่อนออกนอกจากเคหะสถานโดยเคร่งครัด และประชาชนที่ซื้อสินค้าหรือใช้บริการหรือทำกิจกรรมในสถานที่ที่มีผู้คนจำนวนมาก จงเคร่งครัดต่อการเว้นระยะห่างบุคคล หรือ Social Distancing  และให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด เช่น สถานที่สาธารณะ หรือสถานที่อื่นใดที่มีคนใช้บริการจำนวนมากในลักษณะแออัดเบียดเสียด ดังนั้นกฎระเบียบดังกล่าว ถ้ามีผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม จะมีความผิดตามมาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน สองหมื่นบาท

อย่างไรก็ตาม ที่มีมาตรการข้อบังคับในการใช้กฎหมายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ออกมาหลายฉบับนั้น ทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในนามศูนย์ประสานการบริหารจัดการและแก้ปัญหาผลกระทบ โรค COVID – 19 ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เห็นความสำคัญและได้มอบหมายให้บัณฑิตอาสาพัฒนามาตุภูมิ ร่วมกับ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ระดับอำเภอ หมู่บ้าน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐใกล้ชิดกับชุมชนในพื้นที่มากที่สุด ได้ดำเนินการค้นหาและเฝ้าระวัง พร้อมจัดทำฐานข้อมูลประชาชนที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ และพื้นที่เสี่ยง หรือประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค โดยเจ้าหน้าที่ดังกล่าวได้สร้างความรู้ความเข้าใจให้คำแนะนำถึงวิธีปฏิบัติตนในการใช้ชีวิตให้ปลอดภัยต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  และนอกจากนี้ หลายพื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ บัณฑิตอาสาพัฒนามาตุภูมิ ร่วมกับประชาชนในพื้นที่ ร่วมทำความสะอาด หรือ big cleaning day มัสยิด และพื้นที่รอบ ๆ ชุมชน และทำป้ายประชาสัมพันธ์ถึงข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโรคระบาด COVID – 19 ไปแจกจ่ายแก่ประชาชนให้เกิดความเข้าใจถึงโรคระบาด เพื่อยับยั้งการระบาดของเชื้อ COVID – 19 อีกด้วย

 319 total views,  1 views today