Select Page

วันนี้ (3 เมษายน 2563) เวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมน้อมเกล้า ศูนย์ประสานการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาผลกระทบ โรค COVID-19 ศอ.บต. พลเรือตรีสมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ประชุมร่วมกับผู้บริหาร ศอ.บต. ประกอบด้วย นายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการ ศอ.บต. นายประเวศ หมีดเส็น ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. และผู้อำนวยการสำนัก/กอง ของ ศอ.บต. เพื่อติดตามมาตรการแก้ไขปัญหาโรคระบาด COVID-19  ภายใต้แผนงานตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ในพื้นที่ จชต. พร้อมติดตามความคืบหน้าการช่วยเหลือประชาชนที่อาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งไม่สามารถกลับบ้านได้ สืบเนื่องจากการประกาศปิดประเทศจากปัญหาโรคระบาด COVID-19

พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. เปิดเผยว่า ศอ.บต. ได้ประสานสถานทูตไทย เพื่อติดตามการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ไปเปิดร้านอาหารต้มยำกุ้งในประเทศมาเลเซียกว่า 5,000 ราย ขณะนี้พบว่า เบื้องต้นประเทศมาเลเซียได้มอบเครื่องยังชีพแก่ประชาชนบางส่วนแล้วเฉพาะในพื้นที่ขาดแคลน สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ และได้ร้องเรียนไปยังสถานทูตนั้น กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับ ศอ.บต. จะดำเนินการสำรวจปัญหาปากท้องและการดำรงชีพ พร้อมเร่งแก้ไขโดยเร็วที่สุด  จึงขอความร่วมมือประชาชนให้ยั้ง ขอให้อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน อย่างน้อยจนถึงวันที่ 15 เมษายน 2563 เพื่อให้ทีมแพทย์และสาธารณสุขในพื้นที่รักษาผู้ติดเชื้อเดิมก่อน เพื่อป้องกันการเพิ่มจำนวน

อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์ประสานการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาผลกระทบ โรค COVID-19 ได้เปิดช่องทางการให้ความช่วยเหลือ สนับสนุนอาหาร ของใช้ เครื่องอุปโภคบริโภค ให้กับคนไทยที่ต้องกักตัวอยู่ในประเทศมาเลเซีย สืบเนื่องจากเข้าไปทำงาน โดยเฉพาะในรัฐกัวลาลัมเปอร์  รัฐโกตาบารู รัฐปีนัง และรัฐอื่นๆ ที่ประสบปัญหา ไม่สามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาได้ ในการนี้สถานเอกอัคราชฑูตไทยในแต่ละรัฐ จะดำเนินการช่วยเหลือ ขอให้ครอบครัวหรือญาติของผู้ที่มีความประสงค์ที่จะขอรับความช่วยเหลือ แจ้งรายละเอียดได้ที่ สถานกงสุลใหญ่โกตาบารู 006-019-667-5266 สถานกงสุลปีนัง 006-012-391-4866 สถานกงสุลใหญ่ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ 006-017-700-4822 และนอกจากนี้ทางครอบครัวหรือญาติในประเทศไทย ก็สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ 1880 เพื่อประสานให้ ศอ.บต. และสถานกงสุลในแต่ละรัฐช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบปัญหาได้แล้วตั้งแต่วันนี้

เลขาธิการ ศอ.บต. เผยอีกว่า สำหรับมาตรการแก้ไขปัญหา COVID-19 ตามนโยบายของรัฐบาล ได้ดำเนินการ 4  ด้าน  คือ 1.มาตรการป้องกันไม่เพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อ โดยใช้มาตรการไม่เติมบุคคลจากภายนอกเข้าจังหวัด 2.มาตรการจำกัดการแพร่ระบาด ซึ่งออกมาตรการช่วยเหลือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะชุมชน เพื่อให้เกิดการตระหนัก ‘อาจเกิดการระบาดติดต่อกันเอง’ เพราะฉะนั้นชุมชนต้องเข้มแข็ง โดยเฉพาะหน่วยงานสาธารณะสุข ซึ่งศอ.บต. จะเข้าเติมเต็มโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเพื่อให้มีความพร้อมของเครื่องมือในการดูแลประชาชน พร้อมมีนโยบายให้เครือข่ายในโครงการตำบล มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ช่วยเหลืออีกช่องทางด้วย 3.ในส่วนของการรักษา และสถานที่กักกันตัวผู้เสี่ยงติดเชื้อ หากจังหวัด โรงพยาบาลหรือสาธารณสุขขอความช่วยเหลือ ศอ.บต.ก็พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และ4. ด้านการสื่อสารสาธารณะ ข้อห้ามต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ศอ.บต. ได้ใช้ช่องทางสื่อและกลไกทั้งหมดในการให้ความรู้ สร้างความเข้าใจแก่ประชาชน ทั้งสื่อเก่า สื่อใหม่ และสื่อบุคคลในโครงการตำบลมั่นคง มั่งคั่งฯ เพื่อกระจายความรู้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ด้วย อย่างไรก็ดีโครงการตำบล มั่งคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ยังเดินหน้าทำหน้าที่ทุกด้านเหมือนเดิม แต่นำปัญหาโรคระบาดโควิด 19 มาเป็นภารกิจแรกในช่วงเวลานี้ เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ

 176 total views,  1 views today