Select Page

วันนี้ (27 มีนาคม 2563) ณ ห้องประชุมเจริญจิตต์ ณ สงขลา นาวาเอก จักรพงษ์ อภิมหาธรรม ผู้อำนวยการกองบริหารยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประธานในการประชุมเสริมสร้างความเข้าใจแก่นักศึกษาไทยจังหวัดชายแดนภาคใต้ในต่างประเทศ และผู้สำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อรับทราบถึงแนวทางการดำเนินงานของภาครัฐในการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหานักศึกษาไทย จชต. ที่ไปศึกษาต่อ ณ ต่างประเทศ (กรณีเร่งด่วน สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19)  โดยมี ผู้แทนจากกลุ่มสมาคมศิษย์เก่านักศึกษาไทย จชต. ในต่างประเทศ ผู้แทนกลุ่มงานบริหารยุทธศาสตร์การสื่อสารและสร้างความเข้าใจที่ดี (ส่วนงานการต่างประเทศ) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

นาวาเอก จักรพงษ์ อภิมหาธรรม ผ.อ.กองบริหารยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้กล่าวว่า การหารือร่วมกันอย่างต่อเนื่องกับสมาคมศิษย์เก่าในต่างประเทศ ถือเป็นการทำงานในรูปแบบของศูนย์ประสานข้อมูลร่วมกันระหว่าง ศอ.บต. กับสมาคมศิษย์เก่านักศึกษาไทย จชต. ในต่างประเทศ และผู้แทนศิษย์เก่า รวมไปถึงนักศึกษาไทยที่กำลังศึกษาอยู่ในประเทศ โดยมีการประสานงานและการสื่อสารเพื่อรับทราบข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน รวมไปถึงสถานการณ์ในประเทศและความเป็นอยู่ในต่างแดนของนักศึกษาไทย จชต. ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีที่มีผู้แทนนักศึกษาไทยจากประเทศอิหร่าน ประเทศจอร์แดน และประเทศซาอุดิอาระเบียร่วมประชุมด้วย โดยในอนาคตจะเชิญผู้แทนของสมาคมนักศึกษาไทยใน จชต. ให้ครอบคลุมทั้ง 27 ประเทศ มาประชุมร่วมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นร่วมกันอีกครั้ง

ทั้งนี้นาวาเอก จักรพงษ์ อภิมหาธรรม ได้กล่าวยืนยันตามคำแถลงการณ์ของเลขาธิการ ศอ.บต.ถึงมาตรการการดูแลช่วยเหลือนักศึกษาไทยในต่างประเทศว่า ศอ.บต. ได้ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศอย่างใกล้ชิด ในการร่วมดูแลนักศึกษาไทยในต่างประเทศ ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ดูแลเป็นอย่างดีและได้มีการดูแลติดตามอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ในช่วงสถานการณ์การระบาดอย่างแพร่หลายของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือไวรัสโควิด 19 นี้  ในการนี้ ทาง ศอ.บต. ได้รับทราบว่าเมื่อวันที่ 23 มีนาคม  ที่ผ่านมา ทางสถานเอกอัครราชไทย ณ กรุงจาการ์ตา ได้สนับสนุนเงินสด สำหรับจัดสรรอาหารแห้ง น้ำดื่ม รวมไปถึงหน้ากากอนามัย สำหรับใช้ในยามจำเป็นในสถานการณ์ฉุกเฉิน อีกทั้งได้เน้นย้ำว่าให้นักศึกษาติดตามข่าวสารของทางสถานทูตแต่ละประเทศที่ตนพำนักอยู่อย่างใกล้ชิด และการเดินทางกลับเข้าสู่ประเทศจะต้องดำเนินการไปตามมาตรการและขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด

นายอับดุลฮาฟิซ หิเล ประธานองค์กรมูฮัมมาดียะห์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการที่ตนได้ลงข้อความ ผ่านสื่อช่องทางไลน์ (Line) ซึ่งมีนักศึกษาและศิษย์เก่าอยู่ร่วมในกลุ่มไลน์เป็นจำนวนมากกว่า 100 คน ความว่า “นักศึกษาไทยจำนวนมากที่กำลังศึกษาอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย กำลังประสบปัญหาเรื่อง Covid-19 ซึ่งทางการอินโดนีเซีย อาจจะ Lockdown ประเทศในไม่ช้านี้ ทางนักศึกษาได้โทรประสานเพื่อขอความช่วยเหลือประสานกับ กอร.มน. ศอ.บต.กงสุลใหญ่ สถานฑูต และสมาคมศิษย์เก่าอินโดนีเซีย เพื่อให้ทางรัฐบาลส่งเครื่องบิน C-130 ไปรับนักศึกษากลับมาประเทศไทย จึงได้ประสานกับหน่วยงานที่กล่าวมาข้างต้นเป็นที่

 

 

 

เรียบร้อยแล้ว และได้รับข้อมูลจากนักศึกษาไทยในประเทศอินโดนีเซียว่า ทางการอินโดนีเซียได้แจ้งเพื่อให้ชาวต่างชาติออกจากประเทศอินโดนีเซียก่อนที่จะประกาศ Lockdown  ในอีกไม่นานหลังจากนี้ จึงขอให้รัฐบาลไทยดำเนินการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนด้วย” ส่งผลให้มีการเข้าใจคลาดเคลื่อน เนื่องจากการตีความไปต่าง ๆ นานา          จนทำให้เกิดความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องไปสู่วงกว้างว่า ศอ.บต. จะเช่าเหมาลำเครื่องบินเพื่อไปรับนักศึกษานั้น ขอยืนยันว่าเป็นเพียงแค่การเสนอเพื่อขอความช่วยเหลือในภาวะวิกฤติเท่านั้น ซึ่งทางการได้ยืนยันกลับมาแล้วว่ายังไม่มีแผนในการรับตัวนักศึกษา ซึ่งขณะนี้ทางการได้ประเมินสถานการณ์ตามลำดับ และได้ประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศไปแล้ว

นายนิเหาะ เปาะซา ผู้แทนสมาคมศิษย์เก่าไทย-อินโดนีเซีย กล่าวว่า ตนมีความยินดีเป็นอย่างมาก ที่จะร่วมแรงเป็นอาสาสมัครจิตอาสา ในการสนับสนุนและช่วยเหลืองานในมิติการต่างประเทศของ ศอ.บต. อีกทั้งยังร่วมแสดงข้อคิดเห็นในการร่วมออกแบบการจัดกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมกับ ศอ.บต. พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่ทุกภาคส่วนในการร่วมกันผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ด้วย

อย่างไรก็ดี เพื่อให้เป็นการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องร่วมกัน ศอ.บต. จึงขอให้ผู้แทนสมาคมศิษย์เก่าฯ ร่วมกันประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่ถูกต้องไปยังกลุ่มนักศึกษาในต่างแดน รวมถึงผู้ปกครองของนักศึกษา โดยขอให้ทุกคนอย่าได้กังวลและขอให้วางใจถึงแนวทางการดำเนินงานของภาครัฐในการช่วยเหลือดูแล เพราะ ศอ.บต. จะทำหน้าที่ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศอย่างใกล้ชิด รวมถึงการหารือร่วมกับชมรมนักเรียน นักศึกษาไทยในต่างประเทศ               ในการแลกเปลี่ยนข้อมูล โดยทั้งหมดจะต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในปัจจุบันเป็นลำดับ

อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมศิษย์เก่าได้ขอบคุณ ศอ.บต. ที่ให้ความสำคัญกับนักศึกษาที่เรียนจบในต่างประเทศ เพราะถือว่ากลุ่มบุคคลเหล่านี้เป็นลูกหลานของคนในพื้นที่และยังเป็นปัญญาชนคนสำคัญที่มีความรู้ มีศักยภาพ                  หากมีการผนึกความร่วมมือกับ ศอ.บต. ก็พร้อมที่จะดำเนินงานอย่างเต็มศักยภาพทั้งในด้านการเผยแพร่องค์ความรู้ และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในพื้นที่ต่อไป

 

 

 359 total views,  1 views today