วันนี้ (31 ตุลาคม 2562) ที่ อาคารพิพิธภัณฑ์ เทคโนโลยี สารสนเทศ จังหวัดปทุมธานี นางอลิสรา มะแซ ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมเป็นเกียรติในพิธีปิดโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 36 โดยมี พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ รักษาการประธานองคมนตรี ประธานคณะกรรมการดำเนินโครงการ“สานใจไทย สู่ใจใต้”เป็นประธานในพิธีปิด ฯ พร้อมด้วย นายอารีย์ วงศ์อารยะ รองประธานคณะกรรมการดำเนินการโครงการ สานใจไทย สู่ใจใต้ นายขอหลิด แซะอาหลี ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยวิชาการและกิจการพิเศษ กองประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และกิจการพิเศษ ศอ.บต. หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และเยาวชนโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 36 จำนวน 320 คน เข้าร่วม
สำหรับการจัดโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 36ในครั้งนี้ ได้มีการจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน – 1 พฤศจิกายน 2562 ซึ่งได้นำเยาวชนจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ที่นับถือศาสนาอิสลาม ศาสนาพุทธ และศาสนาคริสต์ มาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน โดยได้พำนักกับครอบครัวอุปถัมภ์ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลจำนวน160 ครอบครัว เพื่อต้องการให้เยาวชนได้รับความรู้ และประสบการณ์จากการเรียนรู้ในการทัศน์ศึกษา สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ อาทิ พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และชุมชนสังคมพหุวัฒนธรรมบริเวณชุมชนคลองบางหลวง ชุมชนสี่แยกบ้านแขกฝั่งธนบุรี ตลอดจนได้มีโอกาสเข้ารับฟังโอวาทจากผู้นำระดับสูงของประเทศ ผู้นำศาสนา และได้เข้าค่ายฝึกอบรม อาทิ ค่ายจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ค่ายวิทยาศาสตร์ จากองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ค่ายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และการเรียนรู้สังคมพหุวัฒนธรรมประวัติศาสตร์ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกด้วย โดยเยาวชนทั้ง 320 คน จะมีกำหนดเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาโดยเครื่องบิน C – 130 ของกองทัพอากาศในวันพรุ่งนี้ (1 พ.ย.62)
พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ รักษาการประธานองคมนตรี ประธานคณะกรรมการดำเนินโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” ได้กล่าวให้โอวาทแก่เยาวชนว่า ผมมีความปราบปลื้มและดีใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เห็นการแสดงออกของเยาวชนในโครงการ สานใจไทย สู่ใจใต้ ที่ได้มาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกว่า 30 วันเป็นช่วงที่มีคุณค่า ที่ทำให้ทุกคนได้ใช้โอกาสในการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ พร้อมนำสิ่ง ดี ๆ นำกลับไปใช้ในอนาคต ซึ่งสิ่งที่เยาวชนได้แสดงนั้น ไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือการกระทำล้วนแสดงให้เห็นว่าเยาวชนต่างศาสนิก มีความเข้าใจ ความผูกพัน ความรัก และความสามัคคี ให้ซึ่งกันและกัน ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความมุ่งหวังของ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ทั้งสิ้น นอกจากนี้อยากให้ครอบครัวอุปถัมภ์ และครอบครัวของเยาวชนที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความสัมพันธ์กันไปมาหาสู่ซึ่งกันและกัน โดยเยาวชนจะเป็นตัวเชื่อมต่อที่สำคัญที่จะทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น และสามารถทำให้ทุกคนในภูมิภาคอื่นๆ ที่มองว่าพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีแต่ความรุนแรงนั้นจางหายไป และร่วมกันสร้างสันติสุขให้กลับมาโดยเร็ว
อย่างไรก็ตามโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” ได้มีการขับเคลื่อนมาตั้งแต่ ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน ได้ดำเนินการมาแล้ว 36 รุ่น มีเยาวชนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 8,000 คน มีครอบครัวอุปถัมภ์กว่า 3,000 ครอบครัว ครูพี่เลี้ยงกว่า 400 คน ทำให้เยาวชนได้รับประสบการณ์และเข้าใจในการอยู่ร่วมกันของสังคมพหุวัฒนธรรม และที่สำคัญที่สุดที่เปรียบได้ดั่งหัวใจของโครงการ“สานใจไทย สู่ใจใต้”คือการที่เยาวชนได้มีโอกาสอาศัยอยู่ร่วมกันกับครัวครัวอุปถัมภ์ แต่นั่นไม่ใช่ครอบครัวที่สองของเยาวชน แต่กลับเป็นครอบครัวที่แท้จริงอีกครอบครัวหนึ่งที่คอยดูแลเยาวชน ทั้ง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คอยอบรม สั่งสอน เลี้ยงดูและถ่ายทอดความรู้ให้กับลูกๆเพื่อนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ทำให้เกิดความเข้าใจและอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
141 total views, 1 views today