Select Page

 ​ ​  ​ วันนี้ ( 17 สิงหาคม 2562 เวลา 9.30 น.) ที่ บริเวณ สนามพรุบาโกย สวนขวัญเมือง เทศบาลนครยะลา พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานเปิดการแข่งขัน ออฟโรด ชิงแชมป์ภาคใต้ สนาม 3 และ ออฟโรด ชิงแชมป์จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้เข้าแข่งขันและผู้ชมเข้าชมการแข่งขันอย่างคับคั่ง

 ​ ​  ​ พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า จะเห็นได้ว่าผู้คนในจังหวัดยะลามีความตื่นตัวในการมา   ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้เป็นอย่างมาก สิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งคือเป็นการมอบความสุขให้แก่คนรักรถและนักแข่งรถ เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพี่น้องประเทศเพื่อนบ้าน และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี กิจกรรมในครั้งนี้เป็นการสร้าง แรงบันดาลใจให้แก่เยาวชนที่ชื่นชอบรถและนักแข่งรถชาวยะลา ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่ทำให้การแข่งขันในครั้งนี้เกิดขึ้น ในส่วนของ ศอ.บต. ยินดีที่จะสนับสนุนกิจกรรมที่สร้างประโยชน์ให้กับสังคม บรรยากาศในวันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันออฟโรดในพื้นที่ในวันข้างหน้าต่อไป

 ​ ​  ​ สำหรับการแข่งขัน ออฟโรดชิงแชมป์ภาคใต้สนาม 3 และออฟโรดชิงแชมป์จังหวัดชายแดนภาคใต้ในครั้งนี้ มีชื่อ อย่างเป็นทางการว่า การแข่งขันเซาเทิร์น ไทยแลนด์ สี่คูณสี่ ออฟโรด เอเซียน ชาเล้นจ์ 2019 กำหนดการแข่งขันระหว่าง วันที่ 16-18 สิงหาคม 2562 ณ สนามพรุบาโกย สวนขวัญเมือง เทศบาลนครยะลา ประกอบด้วย การแข่งขันจำนวน 6 รุ่น ได้แก่ รุ่นคานแข็ง รุ่นเที่ยวป่าทั่วไป รุ่น 4×4 ไทยไฟต์  โอเพ่นเคบิน ไทย-มาเลเซีย รุ่นทีม รุ่นปีกนก ชิงแชมป์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และรุ่นคานแข็งชิงแชมป์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการจัดการแข่งขันในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ ส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดยะลาและพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และหารายได้เพื่อสมทบทุนให้แก่เด็กกำพร้าผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้  โดยได้รับการสนับสนุนจากศอ.บต. จังหวัดยะลา เทศบาลนครยะลา ภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ห้างร้าน ชมรมท่องเที่ยวต่างๆตลอดจนหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่

 ​ ​  ​ ทั้งนี้การแข่งขันจะดำเนินการเป็นระยะเวลา 3 วัน มีนักแข่งเข้าร่วมการแข่งขันทั้งจากในและต่างประเทศ ประกอบด้วย นักแข่งจากไทย มาเลเซีย สิงคโปร์และอินโดนีเซีย บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก ได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนเข้าร่วมชมเป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการท่องเที่ยวรวมทั้งสร้างเม็ดเงินให้แก่คน  ในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี

 151 total views,  1 views today