Select Page

 ​ ​  ​ วันนี้ (16 สิงหาคม2562) เวลา 10.00 น. ที่สถานีรถไฟอำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส พลเรือตรีสมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ลงพื้นที่หารือนายสถานีรถไฟและนายอำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส ในการยกระดับสถานีรถไฟสุไหงโกลกให้ได้มาตรฐาน รองรับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและประเทศมาเลเซีย พร้อมเร่งขับเคลื่อนโครงการสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ให้เมืองสุไหงโกลกเป็นเมืองการค้าชายแดนเต็มรูปแบบ และเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการสร้างรางรถไฟทางคู่ หาดใหญ่-สุไหงโกลก บรรจุในแผนการขับเคลื่อนและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาล เพื่อเชื่อมต่อกับประเทศมาเลเซีย ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน

 ​ ​ ​ พลเรือตรีสมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวขณะหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องตอนหนึ่งว่า พื้นที่นี้ควรสร้างรางรถไฟทางคู่ได้แล้ว เพื่อเปลี่ยนชีวิตคนในพื้นที่ที่ต้องสัญจรด้วยรถไฟจาก 4 ชั่วโมง เป็น 2 ชั่วโมง ต้นทางปลายทางสถานีรถไฟหาดใหญ่ ถึงสถานีรถไฟสุไหงโกลก ย้อนศรขึ้นไปเป็นคู่ขนานเชื่อมต่อกับประเทศมาเลเซีย ดึงนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย พร้อมสร้างสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศ ซึ่งปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซียเข้ามาเที่ยวในไทยจำนวนประมาณ 400,000 คน และคาดว่า ถ้า 2 ประเทศได้สร้างรางรถไฟทางคู่เชื่อมต่อกันแล้วเสร็จ จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม เนื่องจากการเดินทางที่สะดวกสบาย

 ​ ​  ​ ภายหลังประชุมหารือ เลขาธิการ ศอ.บต. ได้เดินสำรวจการปรับพื้นที่ ภูมิทัศน์ของสถานีรถไฟสุไหงโกลก ตามการพัฒนาเมืองต้นแบบ ในโครงการเมืองต้นแบบ สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน พร้อมให้สัมภาษณ์ภายหลังพบปะประชาชนที่เข้าใช้บริการรถไฟที่สถานีรถไฟสุไหงโกลกว่า รถไฟรางคู่จะทำให้ชีวิตของประชาชนในพื้นที่เปลี่ยนไป เราจะได้เห็นความสะดวกสบายในการเดินทาง สามารถใช้เวลาในการนั่งรถไฟจากอำเภอสุไหงโกลกไปอำเภอหาดใหญ่เพียง 2 ชั่วโมงจาก 4 ชั่วโมง ซึ่งสามารถนำเวลาที่เหลือไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้เยอะมาก อีกทั้งจะเป็นประโยชน์ต่อการขนส่งและนำเข้าสินค้าที่ต้องใช้ระยะเวลา อาทิ สินค้าที่เป็นพืชผัก เกษตรกรในพื้นที่จะสามารถส่งสินค้าไปยังปลายทางในสภาพที่ดี อย่างไรก็ตามโครงสร้างพื้นฐานคือคำตอบและคำอธิบายของการยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาโครงการเมืองต้นแบบ สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน มีความคืบหน้าเรื่องเกษตรต้นแบบที่เมืองต้นแบบอำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี และการท่องเที่ยวที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ยกเว้นเมืองต้นแบบสุไหงโก-ลกที่เป็นเมืองการค้าชายแดน เนื่องจากจำเป็นต้องสร้างบรรยากาศการค้าระหว่างประเทศ จึงต้องปรับโครงสร้างพื้นฐานหลายด้าน รัฐบาลและศอ.บต. จึงพร้อมเร่งพัฒนาอำเภอสุไหงโกลก เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และสร้างรายได้สู่ประเทศ

 ​ ​  ​ จากนั้นเวลา 14.00 น. เลขาธิการ ศอ.บต. ได้เดินทางพบปะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ที่ด่านศุลกากรบูเก๊ะตา อำเภอเเว้ง จังหวัดนราธิวาส เพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาที่ยังทำให้ไม่สามารถเปิดให้บริการด่านศุลกากรแก่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและมาเลเซียได้ โดยพบว่ามีปัญหาสำคัญที่ต้องนำเรียนนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีช่วยเร่งแก้ไขคือปัญหาเรื่องที่ดิน บุคลากรประจำส่วนงาน และปัญหาเรื่องถนนและสะพานฝั่งประเทศมาเลเซียที่กำหนดรองรับน้ำหนักในการขนส่งสินค้าเพียง 36 และ 15 ตัน ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องเร่งเจรจา

 401 total views,  1 views today