Select Page

      วันที่ 7 มีนาคม 2562 ณ ห้องประชุมมณฑลทหารบกที่ 42 ค่ายเสนาณรงค์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ดร.ธีรพงศ์ เพชรรัตน์ ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต (กรมประชาสัมพันธ์) พร้อมด้วย นางสาวซูไวดา หะยีวาเงาะ นักวิเทศสัมพันธ์ชำนาญการ และเจ้าหน้าที่กลุ่มบริหารยุทธศาสตร์การต่างประเทศ ได้ร่วมประชุมเพื่อเตรียม  ความพร้อมการก่อนการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (กชภ.) ไทย – มาเลเซีย ครั้งที่ 109  (ฝ่ายไทย) จัดโดย สำนักงานประสานงานชายแดนไทย – มาเลเซีย ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 4 โดยมี พลตรี อดิศักดิ์ ประชากิตติกุล เสนาธิการกองทัพภาคที่ 4 เป็นประธานในการประชุมซึ่งวัตถุประสงค์สำคัญ เพื่อรับทราบผลการปฏิบัติงานในความรับผิดชอบของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในห้วงที่ผ่านมา และเพื่อกำหนดประเด็นที่จะหารือกับฝ่ายมาเลเซีย ในการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย – มาเลเซีย ครั้งที่ 109 ซึ่งจะจัดขึ้น ณ จังหวัดภูเก็ต ภายในเดือนเมษายน 2562 ที่จะถึงนี้

      โดยที่ประชุมได้ร่วมรับฟังการนำเสนอผลการประชุมที่ผ่านของคณะทำงานที่เกี่ยวข้องกับด้านต่างๆ และหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึง 5 ประเด็นสำคัญที่ฝ่ายไทยมีมติเพื่อนำเข้าสู่การประชุม กชภ. ครั้งที่ 109 ซึ่งได้แก่ การสนับสนุนและส่งเสริมการผ่านเข้าออกของประชาชนทั้ง 2 ฝ่ายตามช่องทางที่ถูกต้องตามกฎหมาย , การเพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าตรวจและเข้มงวดต่อการลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมายต่ออาวุธ และสารตั้งต้น ในพื้นที่เสี่ยงตลอดแนวชายแดน , การส่งเสริมให้ศุลกากรและ ตม. ทั้งสองประเทศ เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบการลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมาย และการแลกเปลี่ยนข่าวสารกันอย่างใกล้ชิด รวมทั้งผลักดันให้ด่านศุลกากรทั้งสองประเทศมีการพัฒนาและเชื่อมต่อกัน ด้วยการประสานงานที่สอดคล้องเพื่อรองรับการขยายตัวด้านเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ , การให้ร่วมมือในการแก้ไขปัญหาบุคคลสองสัญชาติที่กระทำผิดกฎหมายอย่างจริงจัง และสุดท้ายให้มีการจัดทำแนวความคิดและระเบียบปฏิบัติประจำ (SOP) เกี่ยวกับความร่วมมือด้านการจัดการต่อภัยพิบัติให้สำเร็จและสามารถนำไปปฏิบัติใช้ได้อย่างเป็นรูปธรรม

      อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังได้หารือเพิ่มเติมถึงประเด็นต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของสองประเทศ รวมถึงปัญหาที่ยังเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาทิ ประเด็นเกี่ยวกับ คน อาวุธ เงินทุนที่เคลื่อนไหวระหว่างประเทศ ของเถื่อน ของหนีภาษี บุคคลสองสัญชาติที่ส่งผลต่อความมั่นคงที่ยังคงผ่านเข้า-ออกตามด่านต่างๆ ซึ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังและเข้มงวดกวดขัน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการดำเนินงานมากยิ่งขึ้นต่อไป

 522 total views,  1 views today