ศอ.บต. จัดกิจกรรมอบรมพัฒนาศักยภาพและศึกษาดูงานการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ แก่นักเรียน/ครูในโรงเรียนสังกัดเอกชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปปรับใช้ในการพัฒนาโรงเรียนและชุมชน

วันที่ 6 มิถุนายน 2566 ณ ห้องประชุมปาหนัน โรงแรมปาร์ควิว อำเภอเมือง จังหวัดยะลา นาวาเอก จักรพงษ์ อภิมหาธรรม ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาฝ่ายพลเรือน ศอ.บต. เป็นประธานเปิดกิจกรรม อบรมพัฒนาศักยภาพและศึกษาดูงานการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ แก่นักเรียน (กำพร้า)/ครูในโรงเรียนสังกัดเอกชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อหนุนเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน นักเรียน เด็กกำพร้าในสถานศึกษาในการสร้างอาชีพ และพัฒนาศักยภาพเด็กกำพร้า ในการประกอบอาชีพด้านการเกษตร เพื่อให้สามารถช่วยเหลือตนเองและครอบครัวได้ ตลอดจน สามารถต่อยอดผลการดำเนินกิจกรรมได้อย่างยั่งยืน โดยมีกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย นักเรียน (กำพร้า) ที่มีความสนใจในแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ และครูหรือบุคลากรทางการศึกษาที่ดูแลรับผิดชอบกิจกรรม โดยมีสถานศึกษาในพื้นที่ จำนวน 11 แห่ง ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส 1 แห่ง/จังหวัดปัตตานี 3 แห่ง/จังหวัดยะลา 3 แห่ง/จังหวัดสงขลา 2 แห่งและจังหวัดสตูล 2 แห่ง

ทั้งนี้กิจกรรมในครั้งนี้ มีกำหนดจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 6 – 14 มิถุนายน 2566 โดย ระหว่างวันที่ 6 – 7 มิถุนายน เป็นการอบรมให้ความรู้สร้างความเข้าใจ และเตรียมการก่อนที่จะลงไปศึกษาดูงาน ณ โรงแรมปาร์ควิว จังหวัดยะลา วันที่ 7 – 14 มิถุนายน จะนำกลุ่มเป้าหมายไปศึกษาดูงานและปฏิบัติการเกี่ยวกับเกษตรพอเพียง ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดพัทลุง โดย วันที่ 8 – 11 มิถุนายน 2566 ศึกษาดูงาน ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทราย อันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ /โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ /และศูนย์เพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทราย จังหวัดเพชรบุรี วันที่ 12 มิถุนายน ศึกษาดูงานการประกอบธุรกิจ ณ ฟาร์มวีด้าไฮโดรโปนิค อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ วันที่ 13 มิถุนายน ศึกษาดูงานการปลูกผักไฮโดรโปนิค ณ วิสาหกิจชุมชนบารอกัตฟาร์ม จังหวัดนครศรีธรรมราช และวันที่ 14 มิถุนายน ศึกษาดูงาน ณ ศูนย์เรียนรู้เครือข่ายสินธุ์แพรทอง จังหวัดพัทลุง

อย่างไรก็ตามกิจกรรมในครั้งนี้ จะเป็นการเสริมสร้างกำลังใจ เสริมสร้างทัศนคติเชิงบวก และ ส่งเสริมความรู้และความเข้าใจในการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ อีกทั้ง ยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับ ผู้เข้าร่วมที่จะนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปปรับใช้ในการพัฒนาโรงเรียนและชุมชนของตนเองให้เติบโตและยั่งยืน