Select Page

ศอ.บต. น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณสถาบันพระมหากษัตริย์ มอบเก้าอี้สุขใจ ให้เด็กพิการ ใน จชต. พัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กพิเศษตามแนวพระราชดำริฯ

วันนี้ (25 กรกฎาคม 2567) ที่ ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูล รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานเปิดกิจกรรม “ในหลวงของเรา” (รายอกีตอ) พร้อมมอบเก้าอี้สุขใจ ให้เด็กพิการ 11 ราย ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มอบเกียรติบัตรผู้ให้การสนับสนุนศูนย์ซ่อมสร้างกายอุปกรณ์และมอบวุฒิบัตรแก่ผู้ผ่านการฝึกอบรมจากศูนย์ฝึกอาชีพพระราชทานจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยภายในงานมี กลุ่มเป้าหมายผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ กลุ่มเด็กนักเรียนนักศึกษา กลุ่มเยาวชน กลุ่มภาคประชาชน กลุ่มเจ้าหน้าที่ของรัฐ และกลุ่มเจ้าหน้าที่ของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งสิ้นกว่า 1,500 คน

สืบเนื่องจากพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับสั่ง ให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต่อยอดการพัฒนาโครงการสืบสานแนวพระราชดำริฯ เก้าอี้ สุขใจ ศอ.บต. จึงได้ขยายผลผ่านโครงการ เก้าอี้ สุขใจ โดยสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการเพื่อส่งมอบอุปกรณ์ให้กับเด็กพิการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เด็กพิการได้รับการฝึกพัฒนาการที่ดี สามารถเดินได้เช่นปกติ และให้มีกายอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ครบถ้วนเพียงพอกับเด็กที่ขาดแคลนและจําเป็นจะต้องใช้กายอุปกรณ์ในการฝึกพัฒนาการตามสภาพร่างกายที่เหมาะสม

นอกจากนี้ ศอ.บต. ร่วมกับศูนย์ฝึกอาชีพพระราชทานจังหวัดชายแดนภาคใต้ (นราธิวาส ปัตตานี และยะลา) ได้ริเริ่มการดำเนินการจัดทำ “เก้าอี้สุขใจ” โดยให้เด็กศูนย์ฝึกอาชีพฯ สาขาช่างก่อสร้างได้ฝึกทักษะงานไม้ ตลอดจนเพื่อให้เกิด ความภาคภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือเด็กๆ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย

 25 total views,  2 views today

ผู้แทน ศอ.บต. ลงเยี่ยมตำรวจ 6 นาย เหยื่อจากเหตุการณ์ไม่สงบในพื้นที่ ด้าน ศอ.บต. เร่งเยียวยาให้ทุกคนได้รับความเป็นธรรมโดยเร็ว

วันนี้ ( 24 กรกฎาคม 2567 ) เวลา 13.00 น. ณ โรงพยาบาลปัตตานี อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี นางกนกรัตน์ เกื้อกิจ ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. (กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) เป็นผู้แทน ศอ.บต. ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีเจ้าหน้าที่จากกลุ่มงานเยียวยา ศอ.บต. เจ้าหน้าที่เยียวยาอำเภอ และเจ้าหน้าที่เยียวยาจังหวัด ร่วมลงพื้นที่เข้าเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ฯ ในครั้งนี้ด้วย

ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. มีคนร้ายไม่ทราบชื่อและจำนวน ได้ลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรหนองจิก ได้รับบาดเจ็บจำนวน 6 รายทราบชื่อว่า 1. สิบตำรวจโท ศิงขริน สวัสดิกูล อายุ 25 ปี ได้รับบาดเจ็บมีแผลถลอกบริเวณศีรษะ 2. ดาบตำรวจ สุริยา อีดหมาด อายุ 49 ปี ได้รับบาดเจ็บมีแผลถลอกบริเวณหน้าผาก 3. จ่าสิบตำรวจ สันติสุข จันทรเกษ อายุ 32 ปี ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลฉีกขาดบริเวณใต้คาง 4. สิบตำรวจเอก เกริกฤทธิ์ แก้วแสงอ่อน อายุ 33 ปี ได้รับบาดเจ็บมีอาการปวดบวมบริเวณมือข้างซ้าย 5. สิบตำรวจเอก วีรกานณ์ พรายอินทร์ อายุ 36 ปี ได้รับบาดเจ็บมีแผลถลอกบริเวณศีรษะ 6. จ่าสิบตำรวจ อัครพล ครองราษฎร์ อายุ 35 ปี ได้รับบาดเจ็บมีอาการแน่นหน้าอกและปวดแขนข้างขวา ซึ่งผู้บาดเจ็บทั้ง 6 นาย กำลังปฏิบัติหน้าที่ขณะเดินทางกลับจากการตั้งจุดตรวจ เหตุเกิดบริเวณหมู่ที่ 9 ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี และผู้บาดเจ็บทั้งหมดยังอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดและอาการปลอดภัยแล้ว

ในการนี้ นางกนกรัตน์ เกื้อกิจ ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. ได้พูดคุยให้กำลังใจ พร้อมมอบกระเช้าเยี่ยมในนามเลขาธิการ ศอ.บต. เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ทั้งนี้ ศอ.บต. และจังหวัดปัตตานี ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาการบาดเจ็บเบื้องต้น รายละ 10,000 บาท ให้แก่ผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 6 นาย จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการเยียวยาเพื่อให้ทุกคนได้รับความเป็นธรรมให้เร็วที่สุด

 21 total views,  1 views today

รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดยะลา เปิดงานมหกรรมรวมพลคนหลังกําแพงภาคใต้ “ราชทัณฑ์แก้ไข คนไทยให้โอกาส” หนุนเพิ่มโอกาส ส่งเสริมศักยภาพผู้ก้าวพลาด

วันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ที่ อุทยานการเรียนรู้ยะลา (TK Park ยะลา) ศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา ถนนสุขยางค์ ตำบลสะเตง อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมาเป็นประธานเปิดงาน มหกรรมรวมพลคนหลังกำแพง ภายใต้แนวคิด ราชทัณฑ์แก้ไข คนไทยให้โอกาส พร้อมทั้งร่วมเวทีเสวนาพิเศษ ในประเด็นความท้าทายในการสร้างการยอมรับผู้พ้นโทษ โดยมี นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาราชมนตรี พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ และข้าราชการ เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม ประชาชน กลุ่มผู้ประกอบการ เข้าร่วม

โอกาสนี้พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ในปัจจุบันจำนวนผู้ต้องราชทัณฑ์ในเรือนจำมี ๓ แสนกว่าคน ผู้ที่อยู่ในกรมคุมประพฤติเกือบ ๔ แสนคน บุคคลเหล่านี้เกือบล้านคนต้องการเพียงแค่โอกาส คำว่าโอกาส คือ สิ่งที่คนอื่นยื่นให้ คนที่ต้องการโอกาสมากที่สุด คือ ผู้ที่ก้าวพลาด โอกาสหนึ่งที่เขาต้องการ คือ อยากให้มองเขาเป็นมนุษย์คนหนึ่ง และจะขอแต่พื้นที่ในสังคม อยากให้เรากลับมามองถึงการให้โอกาสบุคคลที่ก้าวพลาด ทั้งที่อยู่ในเรือนจำและพ้นโทษออกมาแล้ว การให้โอกาส คือการให้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ คนเกือบล้าน สามารถเป็นแรงงานสำคัญในการขับเคลื่อนงานที่เหมาะกับความถนัดของเขาได้ นอกจากนี้ โอกาสที่เป็นสิทธิมนุษยชน คือ โอกาสด้านการศึกษา ถ้าคนเราขาดโอกาสทางการศึกษา ย่อมเสี่ยงต่อการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเร้าที่ไม่ดี อย่างน้อยคนที่ในเรือนจำต้องได้รับการศึกษาตามอัตลักษณ์ วัฒนธรรมที่เหมาะสมในพื้นของตนรวมทั้งหลักคำสอนของศาสนา ทุกคนควรได้รับโอกาสที่เท่าเทียมในฐานะที่เป็นบุคลากรของประเทศไทย

สำหรับมหกรรมรวมพลคนหลังกําแพง “ราชทัณฑ์แก้ไข คนไทยให้โอกาส” เริ่มต้นจากโครงการ Yellow Ribbon เป็นโครงการที่ร่วมกับสังคม เพื่อสร้างการยอมรับและการตระหนักรู้ถึงความจําเป็นในการ ให้โอกาสผู้พ้นโทษ ในการกลับมาใช้ชีวิตในสังคมภายนอก ด้วยการสนับสนุนจากภาคสังคม ทั้งขณะอยู่ภายใน เรือนจํา และภายนอกเรือนจํา ที่จะแสดงถึงการยอมรับและไม่รังเกียจจากสังคม เป็นการสื่อให้ผู้พ้นโทษทราบว่า สังคมยังให้การยอมรับ และพร้อมจะให้อภัยผู้พ้นโทษกรมราชทัณฑ์ จึงได้จัดโครงการมหกรรมรวมพลคนหลังกําแพง “ราชทัณฑ์แก้ไข คนไทยให้โอกาส” เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการจุดประกายการปรับเปลี่ยนทัศนคติของสังคมต่อการให้โอกาส การยอมรับ และการให้ความช่วยเหลือผู้พ้นโทษ โดยผู้พ้นโทษที่ได้รับการพัฒนาพฤตินิสัยจากกรมราชทัณฑ์ ที่ประสบความสําเร็จ มาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการรับรู้และการยอมรับต่อสังคมและบุคคลภายนอกภายหลังพ้นโทษ รวมไปถึงเชิญ หน่วยงาน องค์กร มูลนิธิที่ให้การสนับสนุนภารกิจของกรมราชทัณฑ์ ในการขับเคลื่อนกระบวนการพัฒนาแก้ไขพฤตินิสัย โดยจัดกิจกรรมครั้งแรกเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ณ ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ และกระทรวงยุติธรรม ได้เล็งเห็นประโยชน์จากการดําเนินโครงการดังกล่าว จึงกําหนดขยายการดําเนินงานไปยังพื้นที่ภูมิภาค โดยเริ่มต้นจากภาคใต้ ที่กําหนดจัดโครงการมหกรรมรวมพลคนหลังกําแพงภาคใต้ “ราชทัณฑ์แก้ไข คนไทยให้โอกาส” ในครั้งนี้ ณ อุทยานการเรียนรู้ยะลา (TK Park Yala)

 62 total views

เลขาธิการ ศอ.บต. ร่วมประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงฯ เดินหน้าแก้ไขปัญหาเด็กหลุดระบบการศึกษา ช่วยกันปลูกฝังให้เด็กนักเรียนเกลียดชังยาเสพติด

วันนี้ (24 กรกฎาคม 2567) เวลา 12.00 น. ณ ห้องประชุมราชวัลลภ ชั้น 2 อาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพฯ พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์

เลขาธิการ ศอ.บต. ร่วมประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงฯ ในการเดินหน้าแก้ไขปัญหาเด็กหลุดระบบการศึกษา ช่วยกันปลูกฝังให้เด็กนักเรียนเกลียดชังยาเสพติด โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 2/2567 ซึ่งมีหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่าเข้าร่วมประชุม

ในการนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รับฟังบรรยายการนำเสนอข้อมูล บทบาท ภารกิจ ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ประกอบด้วย ภารกิจด้านการศึกษา ภารกิจด้านความมั่นคง (ปัญหาในพื้นที่ชายแดนและปัญหายาเสพติด) และภารกิจอื่น ๆ

ภายหลังรับฟังบรรยายการนำเสนอข้อมูลฯ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า ขอให้เน้นย้ำเรื่องการศึกษาตั้งแต่ระดับประถมศึกษา รวมถึงการแก้ไขปัญหาเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษา ซึ่งมาตรการขับเคลื่อนประเทศไทยเพื่อแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลายเป็นศูนย์ หรือ Thailand Zero Dropout เป็นเรื่องที่ดี รัฐบาลพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ ขอให้ขับเคลื่อนทำงานอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับฝากให้หน่วยงานของ ศธ. ทำงานร่วมกัน ส่วนเรื่องของยาเสพติดจากข้อมูล ในโรงเรียนยังไม่มีการแพร่ระบาดมากนัก ถ้าไม่พูดถึงเรื่องของบุหรี่ไฟฟ้า ขอให้ช่วยกันปลูกฝัง ให้เด็กมีความเกลียดชังยาเสพติดอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงสร้างความรู้ความเข้าใจถึงโทษและอันตรายของยาเสพติด

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เรื่องการพนันออนไลน์ เรื่องคอลเซ็นเตอร์ และเรื่องของยาเสพติด ถือเป็นภัยคุกคามความมั่นคง ซึ่งหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องต้องช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ขอให้ถือเป็นภารกิจที่สำคัญ โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด เป็นปัญหาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ท่านมีความห่วงใยอย่างมากในเรื่องนี้ ทั้งนี้ ในส่วนของรัฐบาลได้เพิ่มมาตรการต่าง ๆ ในการแก้ไขปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการบำบัด การสร้างเครือข่ายความร่วมมือของทุกภาคส่วน รวมถึงการวางมาตรการป้องกันไม่ให้ยาเสพติดเข้ามาตามตะเข็บชายแดน ขอให้ระมัดระวังเรื่องนี้เป็นพิเศษ สำหรับเจ้าหน้าที่ขอให้มีความพร้อมในการทำงาน รองรับสถานการณ์ ขออย่าประมาท อุปกรณ์การทำงานจะต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาตนเองได้สั่งการให้ ปปง. ดำเนินการยึดทรัพย์ ขอให้เร่งดำเนินการอย่างรวดเร็วและฉับพลัน ถ้าหากสงสัยขอให้ยึดมาก่อน ซึ่งหน้าที่พิสูจน์ทราบเป็นหน้าที่ของผู้ที่ถูกยึดทรัพย์มาชี้แจง ส่วนเรื่องของความมั่นคง ปัจจุบันมีปัญหาอย่างมาก ขอให้หน่วยงานความมั่นคงร่วมกันทำงานอย่างจริงจัง โดยเฉพาะปัญหาการลุกลามตามชายแดนของบุคคลต่างด้าว และปัญหาของกลุ่มชาติพันธุ์ ฝากให้กระทรวงมหาดไทยดูในเรื่องนี้ ถ้าหากบุคคลกลุ่มนี้มีคุณสมบัติครบที่ต้องได้สิทธิ์ต่าง ๆ ก็ขอให้เร่งดำเนินการให้บุคคลกลุ่มนี้ได้รับสิทธิ์ตามกฎหมายที่ระบุโดยเร็ว ขออย่านำไปเกี่ยวกับเรื่องของการเมือง ถือเป็นสิทธิ์ของคนที่พึงจะได้รับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการศึกษา สาธารณสุข ขอให้ยึดความเท่าเทียมเป็นหลัก อย่าให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ขอให้กำชับเจ้าหน้าที่ดูแล อำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่

 26 total views,  1 views today

ศอ.บต. หนุน เครือข่ายศิษย์เก่าฯ จัดกิจกรรมการสร้างจิตสำนึกรักบ้านเกิด เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์

เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ เครือข่ายศิษย์เก่าศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมกับ ศอ.บต. จัดกิจกรรมการสร้างจิตสำนึกรักบ้านเกิด เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมีนายแพทย์สมหมาย บุญเกลี้ยง ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)เป็นประธานเปิดกิจกรรม และมีนายซาการียา สานิ ครูผู้ช่วยโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 41 จังหวัดยะลา รองประธานเครือข่ายศิษย์เก่า ศอ.บต. จังหวัดยะลา คนที่ 2 เป็นกล่าวรายงานการดำเนินกิจกรรมและมีศิษย์เก่าที่ไก้รับทุนการศึกษาจากรัฐบาล ภายใต้ ศอ.บต. เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

โดยภายในกิจกรรมมีการแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เช่น การแข่งขันกล่าวสุนทรพจน์เฉลิมพระเกียรติ , นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติจิตอาสาเราทำดีด้วยหัวใจ ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ฯลฯ ซึ่งนักเรียน นักศึกษาเจ้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก โดยมี ศอ.บต.สนับสนุน โดยเฉพาะโครงการส่งเสริมความรักชาติ ศาสนา เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์

 29 total views

ศอ.บต. จัดประชุมทบทวนแผนปฏิบัติราชการฯ ให้เป็นปัจจุบัน ทันต่อสถานการณ์ ด้าน เลขาฯ ศอ.บต. ชี้ ศอ.บต. มิใช่องค์กรระดับภูมิภาค แต่เป็นระดับทวิภาคี ทำงานสอดประสานแก่พื้นที่

วันนี้ (23 กรกฎาคม 2567) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการทบทวนแผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) และจัดทำแผนปฏิบัติราชการรายปี พ.ศ 2569 ของ ศอ.บต. ณ ห้องประชุมปัญจเพชร ชั้น 3 อาคาร ศอ.บต. โดยมี พ.ต.ท. วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานมอบนโยบายการจัดทำแผนและการดำเนินงานของ ศอ.บต. ผ่านระบบ zoom meeting และมีนายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รองเลขาธิการ ศอ.บต. คณะผู้บริหารเข้าร่วมประชุมทบทวนแผนปฏิบัติราชการและการจัดทำแผนฯดังกล่าว ซึ่งมีทีมวิทยากร จากศูนย์ส่งเสริมคุณค่าทางธุรกิจ เข้าร่วมบรรยายและวิเคราะห์แผนปฏิบัติราชการของ ศอ.บต.ด้วย
 
โดยการจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการทบทวนแผนปฏิบัติราชการและการจัดทำแผนปฏิบัติราชการรายปี ของ ศอ.บต. สืบเนื่องจาก ศอ.บต. ได้จัดทำและประกาศใช้แผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี ของปี พ.ศ. 2566-2570 มาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งสถานการณ์และการขับเคลื่อนงานในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปในหลายมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงจุดเน้นการขับเคลื่อนงานภายในองค์กร จึงจัดประชุมทบทวนแผนปฏิบัติราชการขึ้นเพื่อให้ ศอ.บต. ดำเนินงานเหมาะสมทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
 
เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวตอนหนึ่งว่า การจัดทำแผนต่างๆเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นตัวกำหนดและชี้ทิศทางการบริหารงานตลอดจนสามารถใช้ในการสื่อสารให้กับภาคส่วนอื่นๆที่จะต้องเข้ามามีส่วนร่วมเกี่ยวข้องกับงาน ศอ.บต. ในอนาคต ในส่วนองค์กร ศอ.บต. เป็นองค์กรระดับทวิภาคีไม่ใช่แค่ระดับภูมิภาคหรือระดับประเทศ งานกิจกรรมหรือโครงการต่างๆของ ศอ.บต. จึงต้องช่วยกันออกแบบให้สอดคล้องกับระดับฐานรากขึ้นไปสู่ระดับภูมิภาค และนำไปสู่ระดับทวิภาคี สามารถตอบคำถามได้หลายคำถามในคราวเดียว เป็นหมุดหมายในการทำงานต่อไป อย่างไรก็ตามองค์กรสมัยใหม่ต้องมีความกระชับ แม้เป็นองค์กรเล็กๆและประชากรไม่มาก ก็ต้องทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ รวดเร็ว เข้มแข็ง และยืดหยุ่นในเวลาเดียวกัน ดังนั้นการทบทวนแผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปีและการจัดทำแผนปฏิบัติราชการรายปีจึงต้องมีเนื้อหาประกอบการตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ สามารถนำไปวิเคราะห์และสังเคราะห์เป็นเข็มทิศของ ศอ.บต. ตอบโจทย์นโยบายของรัฐบาล พร้อมบูรณาการแผนงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 
อย่างไรก็ตาม สำหรับการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการทบทวนแผนปฏิบัติราชการ กำหนดจัดตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 24 กรกฎาคม 2567 นอกจากจะมีการประชุมวิเคราะห์แผนดังกล่าวแล้ว จะมีการรับฟังและรวบรวมข้อมูลจากบุคลากรภายใน ศอ.บต. และวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจเพื่อจัดทำแผนระยะ 5 ปีและแผนปี 69 ของ ศอ.บต. ต่อไป

 31 total views