ศอ.บต. หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือนักศึกษาไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ณ สาธารณรัฐซูดาน ด้าน เลขาธิการ ศอ.บต. เผย จะเร่งหาทางออกกับทุกภาคส่วนให้เร็วที่สุด เพื่อได้เข้าศึกษาให้จบหลักสูตร
77 total views, 3 views today
77 total views, 3 views today
48 total views
วันนี้ (25 พ.ค.66)เวลา 10.52 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงติดตามการดำเนินงานโครงการหมู่บ้านปศุสัตว์-เกษตรมูโนะ หมู่ 4 ตำบลโฆษิต อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส โดยมี พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุก องคมนตรี เลขาธิการ กปร พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายไพโรจน์ จริตงาม นายทศพล สวัสดิสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และผู้เกี่ยวข้องร่วมรับเสด็จฯ
สำหรับโครงการหมู่บ้านปศุสัตว์-เกษตรมูโนะ หมู่ 4 ตำบลโฆษิต อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นศูนย์สาขาที่ 3 ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อจัดสรรที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกร และเพื่อดำเนินการสาธิตการใช้ประโยชน์และพัฒนาพื้นที่ดินเปรี้ยวจัด และเพื่อให้เป็นหมู่บ้านตัวอย่างในการพัฒนาอาชีพด้านการปศุสัตว์ ปัจจุบัน ดำเนินงานตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการสืบสาน รักษา ต่อยอด เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน โดยมี สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือ สำนักงาน กปร. ให้การสนับสนุนและประสานการดำเนินงานให้เป็นไปตามแนวแผนแม่บทของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ด้านปศุสัตว์และการเกษตร ในลักษณะการสาธิตและขยายผลไปยังเกษตรกรในพื้นที่โครงการฯ และพื้นที่โดยรอบ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ด้วยสภาพพื้นที่ในโครงการฯ ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่มน้ำท่วมขัง ดินมีสภาพเป็นกรดจัด และมีอินทรีย์วัตถุมาก ชุดดินที่พบในพื้นที่ประกอบด้วยชุดดินเชียรใหญ่ และชุดดินกาบแดง /ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ จึงได้ดำเนินการปรับสภาพพื้นที่โดยการขุดคู-ยกร่อง และปรับสภาพดินให้มีความเหมาะสมในการปลูกพืช ด้วยปูน , ปุ๋ยหมัก และน้ำหมักชีวภาพ เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน /ควบคู่ไปกับการถ่ายทอดองค์ความรู้ในการบริหารจัดการพื้นที่ดินเปรี้ยวจัด ให้สามารถใช้ประโยชน์ทำการเกษตรได้
ทั้งนี้ กรมชลประทาน ดำเนินการก่อสร้างระบบคูส่งน้ำ ,คลองระบายน้ำ , ปรับปรุงและเสริมคันดินกั้นน้ำรอบโครงการโดยบนคันดินปรับเป็นผิวจราจรใช้สำหรับสัญจร และสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ รวมทั้งก่อสร้างถังเก็บน้ำพร้อมระบบประปา กระจายน้ำสนับสนุนกิจกรรมอุปโภคบริโภค การเลี้ยงปศุสัตว์ และการเกษตรในพื้นที่โครงการฯ
สำหรับ โครงการหมู่บ้านปศุสัตว์-เกษตรมูโนะ มีพื้นที่โครงการรวมทั้งสิ้น 1,500 ไร่ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย พื้นที่ศูนย์สาธิตการเลี้ยงสัตว์โครงการหมู่บ้านปศุสัตว์-เกษตรมูโนะ จำนวน 516 ไร่ มีโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ 12 โรงเรือน อาทิ โคเนื้อ , แพะ , แกะ , ไก่ลูกผสมพื้นเมือง , เป็ดอี้เหลียง, เป็ดเทศ และการเลี้ยงปลาในกระชัง /นอกจากนี้ยังมีแปลงปลูกหญ้าเพื่อเป็นอาหารสัตว์ จำนวน 492 ไร่
พื้นที่จัดสรรที่ดินให้แก่เกษตรกรสำหรับเป็นที่อยู่อาศัยที่ทำกิน จำนวน 409 ไร่ /ปัจจุบันมีสมาชิก 49 ครัวเรือน 129 คน ซึ่งได้รับการจัดสรรที่ดินครัวเรือนละ 3 ถึง 6 ไร่ อาทิ แปลงจัดสรรของนายแป แลดไธสง บนที่ดิน 3 ไร่ ซึ่งได้รับการจัดสรรที่ดินเมื่อปี 2542 เริ่มจากการทำเกษตรแบบเชิงเดียว และได้พัฒนาไปทำเกษตรแบบผสมผสานจนประสบผลสำเร็จ เป็นต้นแบบและแหล่งเรียนรู้ด้านการทำเกษตรแบบผสมผสานโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง / โดยมีกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การปลูกพืชผักยกแคร่ , ไม้เลื้อย , เลี้ยงปลาในกระชัง , เลี้ยงวัว , ไก่พันธุ์พื้นเมือง , เป็ดไข่ และเป็ดเทศ /ทำให้มีผลผลิตสำหรับบริโภคและจำหน่ายตลอดทั้งปี /และเมื่อปี 2565 มีรายได้ 99,790 บาทต่อครัวเรือน ทำให้ตนเองและครอบครัวมีความกินดี อยู่ดี มีรายได้ที่มั่นคง และสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
และพื้นที่ ใช้ประโยชน์ส่วนรวมของหมู่บ้าน จำนวน 575 ไร่ /ปัจจุบันเกษตรกรในพื้นที่โครงการฯ ส่วนใหญ่ปลูกไม้ยืนต้น , พืชผักหมุนเวียน , ไม้ผลผสมผสาน ร่วมกับการปลูกยางพารา และปาล์มน้ำมัน /การปศุสัตว์ และประมง ทั้งนี้ ในปี 2565 มีรายได้เฉลี่ย 213,746 บาท/ครัวเรือน
โอกาสนี้ มีพระราชดำรัสแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพระราชทานขวัญและกำลังใจ
74 total views, 2 views today
เมื่อวันจันทรที่ 22 พฤษภาคม 2566 เวลา 13.00 น. ณ ซีซี รีสอร์ท อำเภอละงู จังหวัดสตูล พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต.มอบหมายให้ นางนิตยา มุทามาศ ผอ.กลุ่มงานเยียวยา เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมพัฒนาศักยภาพบุคลากรการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ในการช่วยเหลือเยียวยาด้านจิตใจ ใน”หลักสูตรการเยียวยาแนวฟื้นฟูอำนาจผู้ประสบเหตุการณ์รุนแรง” โดยมีประเด็นเนื้อหาเป็นการสร้างการรับรู้ความเข้าใจของผู้ประสบเหตุการณ์รุนแรง และพัฒนาทักษะ วิธีการปฏิบัติช่วยเหลือผู้ประสบเหตุความรุนแรงและการดูแลตนเองของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน รวมถึงการวิเคราะห์ปัญหา แลกเปลี่ยนเรียนรู้ อุปสรรคในการทำงาน การปรับปรุงวิธีการทำงานด้านการให้ความช่วยเหลือเยียวยาให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ยกระดับการปฏิบัติด้านการช่วยเหลือเยียวยาให้มีความคล่องตัว รวดเร็ว และครอบคลุม โดยรุ่นที่ 3 ระหว่างวันที่ 22 – 26 พฤษภาคม 2566 มีกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วยเจ้าหน้าที่เยียวยา ศอ.บต. จังหวัด/อำเภอ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์หจังหวัด สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด รวมจำนวน 23 คน
22 total views
72 total views, 1 views today
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 ที่ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานเปิดโครงการตรวจสารพันธุกรรม (DNA) เพื่อช่วยเหลือคนไทยในมาเลเซียที่มีสถานะตกหล่นทางทะเบียนราษฎร ประจำปี 2566 โดยมี นายบุญพาศ รักนุ้ย รองเลขาธิการ ศอ.บต. นายภาษิต จูฑะพุทธิกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. เจ้าหน้าที่จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
ทั้งนี้โครงการนี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 2560 และเว้นช่วงไปในปี 2563-2565 เนื่องจากเป็นช่วงการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 และในปีนี้จัดขึ้น 2 วัน ระหว่างวันที่ 23-24 พฤษภาคม 2566 โดยเป็นความร่วมมือระหว่างกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู ศอ.บต. และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และมีสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย อำเภอสุไหงโก-ลก และ อำเภอตากใบเข้าร่วมด้วย ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมตรวจสารพันธุกรรม ณ เมืองโกตาบารูในครั้งนี้มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีสถานะตกหล่นทางทะเบียนราษฎรให้ได้รับการตรวจพิสูจน์สัญชาติเพื่อทำให้คนไทยกลุ่มนี้ได้รับสถานะและมีสิทธิในการเข้ารับการบริการจากทั้งสถานกงสุลใหญ่และหน่วยงานต่างๆในประเทศไทยได้อย่างครบถ้วน
พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่เราขับเคลื่อนในเรื่องการตรวจสารพันธุกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชนที่ไร้สถานะทางทะเบียนหรือไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นหนึ่งกลุ่มที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระองค์ท่านทรงมีความห่วงใยคนที่อาศัยอยู่ตามพื้นที่ตะเข็บชายแดน และข้ามแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อประกอบอาชีพซึ่งบางส่วนไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนก็จะมีปัญหาในเรื่องของคุณภาพชีวิต เรื่องการศึกษาเรื่องของการรักษาพยาบาลเรื่องของสิทธิต่างๆ ทาง ศอ.บต. ร่วมกับกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู จึงเริ่มโครงการนี้ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2560 ที่ เมืองโกตาบารู และพบว่าในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีพี่น้องประชาชนอีกจำนวนมากที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร หรือไม่มีตัวตนจึงได้เริ่มดำเนินการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในพื้นที่ 5 จังหวัดรวมแล้วประมาณ 2,018 คน และในครั้งนี้ก็กลับมายังเมืองโกตาบารูอีกครั้ง ถือว่าเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้พี่น้องเหล่านี้เป็นคนไทยที่มีสถานะหรือมีตัวตนอย่างสมบูรณ์ มีสิทธิในฐานะที่เป็นพลเมืองไทย ได้เรียน ได้ทำงาน ได้รักษาพยาบาล การขับเคลื่อนโครงการนี้เป็นโครงการที่มีคุณค่าและมีความหมายมาก เพื่อให้กลุ่มคนเหล่านี้ได้เป็นพลเมืองไทยที่มีตัวตนโดยสมบูรณ์
ด้าน นิรุสอามานี ราแด หนึ่งในผู้ที่เดินทางมาตรวจ ตรวจสารพันธุกรรม (DNA) กล่าวว่า เดินทางมาตรวจ DNA เพื่อจะทำบัตรประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าไม่มีบัตรประชาชน จะทำอะไรไม่ได้เลย จะเข้าโรงพยาบาลก็ไม่ได้ เหมือนไม่มีตัวตนในสังคม หลังจากได้บัตรประชาชนแล้วจะเดินทางกลับประเทศไทยทันที จะกลับไปหางานที่ประเทศไทย ดีใจมากๆที่ทางกงสุลใหญ่ และ หน่วยงานภาครัฐได้อำนวยความสะดวก เปิดโอกาสในการตรวจ DNA เมื่อได้ยินว่าทางกงสุลมีโครงการนี้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายก็สนใจและมาทันที ขอบคุณทุกหน่วยงานที่อำนวยความสะดวกทุกขั้นตอน
ทั้งนี้ตั้งแต่ปี 2560 จนถึง 2566 ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีผู้เข้าร่วมตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรม 2,018 คน ดำเนินการเพิ่มชื่อในทะเบียนราษฎรแล้ว 833 คน อยู่ระหว่างดำเนินการ 1,185 คนและมีผู้เข้าร่วมพิสูจน์สารพันธุกรรม ณ เมืองโกตาบารู ประเทศมาเลเซีย ตั้งแต่ปี 2560-2563 จำนวน 256 คน ดำเนินการเพิ่มชื่อในทะเบียนราษฎรไปแล้ว 141 คน อยู่ระหว่างดำเนินการ 115 คน และในปี 2566 มีบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร ตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรม ณ เมืองโกตาบารู ประเทศมาเลเซีย จำนวน 98 คน
99 total views, 2 views today