s
Select Page

นักวิจัยม.ฟาฏอนี เสนอแผน Matching “ยกระดับศักยภาพเยาวชนกลุ่มเปราะบาง เลี้ยงแพะแบบครบวงจร” แก่ ศอ.บต. เน้นสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ดันเกษตรกรรุ่นใหม่ สู่ผู้ประกอบการ Smart Farmer 

วันนี้ (28 มีนาคม 2566) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สำนักงานปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประชุมจับคู่ (Matching) งานวิจัยกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อนำร่องการใช้ประโยชน์ในการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีรศ.ดร.บดินทร์ รัศมีเทศ รองเลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานการประชุมฯ ผ่านระบบ Zoom Meeting พร้อมด้วยนายวิสันต์ ประเสริฐศรี ผู้ช่วยเลขาธิการศอ.บต. ผศ.ยะโก๊ะ ขาเร็มดาเบะ นักวิจัยจาก มหาวิทยาลัยฟาฏอนีและเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุม ชั้น 3 ศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้

 

โดยในที่ประชุม มหาวิทยาลัยฟาตอนี ได้มีการนำเสนอรูปแบบการส่งเสริมและการบริหารจัดการเลี้ยงแพะแบบครบวงจรของเยาวชนกลุ่มเปราะบาง (ไม่มีงานทำ) ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อศึกษารูปแบบการส่งเสริมและการบริหารจัดการเลี้ยงแพะครบวงจรด้วยนวัตกรรมอาหาร Smat Farm และการจัดการสุขภาพ ตลอดจนหนุนความเข้มแข็งของเครือข่ายกลุ่มเกษตรกรและเยาวชนกลุ่มเปราะบางที่เลี้ยงแพะให้เป็นผู้ประกอบการ Smart Farmer โดยเน้นไปที่ผลผลิตที่จะต้องคำนึงถึงระบบของการเลี้ยงแพะพื้นเมืองรวมถึงนวัตกรรมอาหารจากวัสดุเหลือใช้ เพื่อก่อให้เกิดการลดรายจ่ายด้านอาหารสำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงแพะ และเกิดการจ้างงานเพิ่มรายได้ให้กับพื้นที่สามารถเป็นอาชีพหลักให้กับกลุ่มเยาวชนที่ไม่มีงานทำตลอดจนเป็นพื้นที่ต้นแบบต่อไป 

 

อย่างไรก็ตามการขับเคลื่อนงานวิจัย เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นศอ.บต. ได้มีการลงนามความร่วมมือ (MOU) ด้านการส่งเสริมการวิจัยและการใช้ประโยชน์ในการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้กับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2563 ที่ผ่านมาและได้สนับสนุนทุนให้แก่นักวิจัยรวมจำนวนทั้งสิ้น 39 ทุน ซึ่งในปี 2566 มีงานวิจัยจำนวน 3 ผลงานที่พร้อมนำร่องในการนำไปใช้ประโยชน์ตามภารกิจงานของ ศอ.บต. และสอดคล้องกับสภาพปัญหาในพื้นที่ได้แก่ 1.งานวิจัยการประยุกต์ใช้นวัตกรรมสารชีวภัณฑ์เพื่อแก้ปัญหาโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพาราฯ 2.งานวิจัยส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพการเลี้ยงแพะพื้นเมืองเพื่อยกระดับรายได้ของเยาวชนกลุ่มเปราะบาง และ3.งานวิจัยพัฒนาวัสดุยางธรรมชาติเทอร์โมพลาสติก (หวายเทียม) ตามแนวทางเศรษฐกิจใหม่ BCG

 

ทั้งนี้เพื่อมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ด้วยงานวิจัยและนวัตกรรมรวมทั้งส่งเสริมให้บุคลากรทางด้านงานวิจัยและผู้ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่มีส่วนร่วมในการสร้างเครือข่าย กลไกในการเปลี่ยนแปลงเชิงพื้นที่นำไปสู่เป้าหมายให้กินดี อยู่ได้ เข้าใจกัน ตลอดจนร่วมกันเผยแพร่ประยุกต์ผลการวิจัยและนวัตกรรมไปสู่การขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาและพัฒนาตามข้อเสนอนโยบายการบริหารและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้

ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. เยี่ยมเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุ ถูกคนร้ายยิง ขณะเดินทางกลับจากภารกิจพบปะมวลชนในพื้นที่ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมา

วันนี้ (28 มีนาคม 2566) ที่ โรงพยาบาลยะลา อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา นายแพทย์สมหมาย บุญเกลี้ยง ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่เยียวยา ศอ.บต. เข้าเยี่ยม ร้อยโท สิทธิชัย ทวิธางกูล อายุ 58 ปี ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2566 เวลา 19.00 น. คนร้ายไม่ทราบชื่อและจำนวน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่ ขณะกำลังเดินทางกลับจากภารกิจพบปะมวลชนในพื้นที่ เหตุเกิดบริเวณถนนสายชนบท บ้านโสร่ง หมู่ที่ 3 ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี โดยได้รับบาดเจ็บถูกกระสุนปืนเข้าที่บริเวณซี่โครงด้านซ้าย และหน้าท้องแพทย์ได้ทำการเย็บแผลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รู้สึกตัวดี

ในการนี้ นายแพทย์สมหมาย บุญเกลี้ยง ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. ได้พูดคุย ให้กำลังใจ พร้อมมอบกระเช้าเยี่ยมในนาม เลขาธิการ ศอ.บต. เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ แก่ผู้ได้รับบาดเจ็บ

เกษตรกรยางพาราเตรียม เฮ! ศอ.บต. ร่วมกับ วช. และมหาวิทยาลัยราชภัฏ ยะลา เคาะงานวิจัยช่วยแก้ “โรคใบร่วงชนิดใหม่ยางพารา” ได้สำเร็จแล้ว!

วันนี้ (27 มีนาคม 2566) เวลา 13.30 น. ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จัดการประชุมจับคู่ matching งานวิจัยกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อนำร่องการใช้ประโยชน์ในการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ อาคารศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีพลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานในการประชุม และมีนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในพื้นที่และส่วนกลางเข้าร่วมประชุมผ่านระบบซูม เพื่อร่วมพิจารณาหารือนำแนวทางงานวิจัย เรื่อง การประยุกต์ใช้นวัตกรรมสารชีวภัณฑ์เพื่อแก้ปัญหาโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพารา ที่เป็นพืชเศรษฐกิจหลักของภาคใต้ มาขยายผลสู่การปฏิบัติจริง 

 

สืบเนื่องจากที่ผ่านมา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และ ศอ.บต. ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันในการส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม เพื่อแก้ไขปัญหาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มุ่งเน้นไปยังกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ โดยสนับสนุนงานวิจัยทั้งสิ้น 39 ทุน และมีงานวิจัย 3 ผลงาน ที่พร้อมนำร่องในการใช้ประโยชน์ตามภารกิจงานของ ศอ.บต. และสอดคล้องกับปัญหาในพื้นที่ คือ 1.งานวิจัยการประยุกต์ใช้นวัตกรรมสารชีวภัณฑ์เพื่อแก้ปัญหาโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพาราฯ 2.งานวิจัยส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพการเลี้ยงแพะพื้นเมือง เพื่อยกระดับรายได้ของเยาวชนกลุ่มเปราะบาง และ 3.งานวิจัยพัฒนาวัสดุยางธรรมชาติเทอร์โมพลาสติก (หวายเทียม) ตามแนวทางเศรษฐกิจใหม่ BCG 

 

ผศ.ดร.อิสมาแอ เจ๊ะหลง นักวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เผยว่า ขณะนี้ทีมวิจัยได้วิจัยนวัตกรรมสารชีวภัณฑ์ เพื่อแก้ปัญหาโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพาราจากธรรมขาติ 100 เปอร์เซ็นต์ และได้ทดลองใช้ในแปลงทดลอง ปรากฏว่า สามารถป้องกัน และสร้างภูมิคุ้มกันแก่ยางพาราที่ยังไม่เกิดโรค อีกทั้งยังสามารถช่วยรักษาโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพารา สำหรับต้นที่เกิดโรคแล้ว โดยยางพาราสามารถดูดซึมสารชีวภัณฑ์ดังกล่าวจากการดูดซึมทางราก สู่ลำต้น และหล่อเลี้ยงไปยังใบ นอกจากนี้ยีงพบว่า สารชีวภัณฑ์ดังกล่าวยังช่วยเพิ่มน้ำยางพาราแก่เกษตรกร 30-50% อีกด้วย

 

ด้านเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า เป็นนิมิตหมายที่ดีในการทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาซับซ้อน มีหลายเรื่องราวเกิดขึ้นให้แก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ในการนำ “งานวิจัยและงานวิชาการ” สู่นำการแก้ไขปัญหา ที่หมายรวมถึงการพัฒนาสังคมจิตวิทยาทั้งระบบ เนื่องจากงานวิจัยเป็นชิ้นงานที่ได้รับการสืบค้นแนวทาง จากรากลึกของปัญหา สู่แนวทางการแก้ไขที่มีแนวทางเป็นไปได้ และตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง

สมาคมร่วมสร้างชุมชนศรัทธา กัมปงตักวา นำภาคีเครือข่าย หารือศอ.บต. เตรียมเปิดเวทีรับฟังเสียงสะท้อนของชุมชน พร้อมหาแนวทางแก้ไขปัญหา ลดความรุนแรง สร้งสันติสุขอย่างยั่งยืน

วันนี้ (27 มีนาคม 2566) เวลา 10.00 น. พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ต้อนรับผู้แทนจากสมาคมร่วมสร้างชุมชนศรัทธา กัมปงตักวา ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และผู้แทนจากสถาบันสันติศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ตลอดจนผู้แทนจาก Minority right Group International (MRG) เข้าพบเลขาธิการ ศอ.บต. เพื่อชี้แจงโครงการและร่วมประชุมปรึกษาหารือการขับเคลื่อนงานในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในมิติการส่งเสริมการมีส่วนร่วมขององค์กรภาคประชาสังคม โดยมี นายบุญพาศ รักนุ้ย รองเลขาธิการ ศอ.บต. ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. /กระทรวง / ทบวง / กรม ผู้อำนวยการกอง / กลุ่มงาน ศอ.บต. ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมในครั้งนี้ ณ ห้องประชุมน้อมเกล้า ชั้น 1 อาคารศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) อำเภอเมือง จังหวัดยะลา

สำหรับการประชุมในครั้งนี้ผู้แทนสมาคมร่วมสร้างชุมชนศรัทธา กัมปงตักวา ได้มีการนำเสนอโครงการเสริมสร้างสันติภาพที่ครอบคลุมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (Inclusive Peacebuilding in Thailand’s Southern Border Provinces) และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการทำงานเกี่ยวกับการสร้างความสงบสุขในพื้นที่ โดยสมาคมร่วมสร้างชุมชนศรัทธา กัมปงตักวา ร่วมกับสถาบันสันติศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และMinority right Group International หรือ MRG เพื่อสร้างเครือข่ายชุมชนศรัทธา กัมปงตักวา ในปฏิบัติการภายใต้หลักคิด “ประชาชนต้องจัดการกับปัญหาด้วยตนเอง และหลักศรัทธานำกระบวนการพัฒนาเพื่อชุมชน โดยชุมชน”

ในการนี้ เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ชื่นชม สมาคมร่วมสร้างชุมชนศรัทธา กัมปงตักวา และภาคีที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ทำโครงการแก่ชุมชนให้มีความสำคัญต่อการพัฒนาประชากรให้เข้มแข็ง จึงต้องมีการเร่งผลักดันให้เกิดชุมชนตักวา หรือชุมชนศรัทธา โดยนำหลักศาสนามายึดโยงประชาชนให้เกิดพลังแห่งความดี เพื่อป้องกันภัยในด้านต่างๆ ที่อาจเข้ามาทำลายคนในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ศอ.บต. ยังคงเดินทางต่อเพื่อรขยายผลการดำเนินโครงการไปในทุกชุมชน หมู่บ้านในทุกพื้นที่ เพื่อให้เกิดเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง ไม่ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดี ซึ่งต้องขอบคุณในความร่วมมือของทุกคนทุกฝ่าย ที่ร่วมผลักดันให้โครงการเกิดขึ้น และได้เห็นถึงความตั้งใจของเจ้าหน้าที่ภาครัฐและเข้ามาร่วมสนับสนุนโครงการนี้อย่างเต็มที่

“กำปงตักวา” คือการใช้หลักศาสนาที่บริสุทธิ์และมีมัสยิดเป็นศูนย์กลาง มีผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น คอยหนุนเสริม และประชาชนในชุมชนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาของชุมชนเอง ในขณะที่ภาครัฐจะคอยสนับสนุนเต็มที่กับการขับเคลื่อนตามแนวทางชุมชนศรัทธา ทั้งนี้เพื่อลดการใช้ความรุนแรงและเกิดสันติสุขที่ยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งกำปงตักวา เป็นชุมชนที่มีการบริหารจัดการตนเองทั้งด้านสังคมและเศรษฐกิจ ที่เป็นไปตามหลักศาสนา ตรงกับเป้าหมาย และความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ตามนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้

เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานในพิธีทำบุญกระดูก ครบ 100 วันในการจากไปของ ร.ต.อ. สุทธิรักษ์ พันธะนิยะ เยื่อระเบิดแฟลตตำรวจนราธิวาส

วันนี้ (26 มีนาคม 2566) เวลา 10.00 น. พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานในพิธี ทำบุญอัฐิ ร้อยตำรวจเอก สุทธิรักษ์ พันธะนิยะ รองสารวัตรจราจร (สว.จร.) สถานีตำรวจภูธรเมืองนราธิวาส ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 ช่วงเวลา 12.50 น. มีคนร้ายได้วางระเบิด ที่แฟลตตำรวจในเมืองนราธิวาส ทำให้อาคารที่พัก รถที่จอดอยู่เกิดเพลิงไหม้เสียหายอย่างหนัก จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ ร้อยตำรวจ เอกสุทธิรักษ์ พันธะนิยะ และบาดเจ็บอีก 16 ราย และในวันนี้ครบรอบ 100 วัน ของการเสียชีวิต ครอบครัวได้จัดพิธี ทำบุญอัฐิ เพื่อให้ร้อยตำรวจ เอกสุทธิรักษ์ พันธะนิยะ ได้รับอุทิศส่วนกุศล และนิมนต์พระสงฆ์จำนวน 7 รูป เพื่อทำการสวดเจริญพระพุทธมนต์ และถวายสังฆทาน ภัตตาหาร ทอดผ้าบังสุกุล เพื่อส่งผลบุญให้กับผู้ล่วงลับ โดยในพิธีมีนางเสาวรัตน์ พันธนิยะ ภารยาผู้เสียชีวิตและครอบครัว ตลอดจนข้าราชการตำรวจ ทหารและประชาชน ร่วมในพิธี ท่ามกลางบรรยากาศยังคงอยู่ในความโศกเศร้า
 
ในส่วนการให้ความช่วยเหลือของภาครัฐ นั้น รัฐบาล โดย ศอ.บต. ได้ดำเนินเยียวยาทันที เพราะ ศอ.บต. ไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง ยังให้ความสำคัญในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ โดยจะมีเจ้าหน้าที่จากกลุ่มงานเยียวยา ศอ.บต. เยียวยาจังหวัด ติดต่อครอบครัวเพื่อสอบถามปัญหาเรื่องการใช้ชีวิต และเรื่องหางานต่างๆ ให้แก่บุตรในอนาคต
 
สำหรับพิธีฉลองอัฐิ หรือที่เรียกว่า ทำบุญกระดูก เป็นพิธีสำคัญที่ชาวไทยพุทธจะนิยมทำกันเพื่อแสดงความกตัญญูต่อผู้ล่วงลับซึ่งอาจจะเป็นบิดามารดาหรือคนที่เคารพรัก นอกจากนี้ยังเป็นพิธีที่ช่วยเสริมดวงอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับวงศ์ตระกูลอีกด้วย

เลขาธิการ ศอ.บต. ให้กำลังใจผู้ประกอบการให้เดินหน้าต่อ หลังเกิดเหตุระเบิดกว่า 11 จุด ในพื้นที่ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 17 สค. 65

วันนี้ (25 มีนาคม 2566) เวลา 10.30 น. พลตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมแสดงความยินดี พร้อมให้ขวัญและกำลังใจแก่ นางจุฑารัตน์ ไลวานิช ผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันบางจาก และครอบครัว ที่วันนี้ได้กลับมาเปิดบริการปั๊มน้ำมันอีกครั้ง หลังจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2565 เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา มีคนร้ายบุกเข้าไปลอบวางระเบิด และเผาปั๊มน้ำมันบางจาก เลขที่ 200/1 บ้านดอนยาง หมู่ 8 ตำบลบ่อทอง บริเวณริมถนนสายปัตตานี – หาดใหญ่ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เป็นเหตุให้ปั๊มน้ำมันบางจากเกิดเพลิงไหม้ขนาดใหญ่ จนได้รับความเสียหายอย่างหนัก และวันนี้ ได้ฤกษ์งามยามดี เปิดให้บริการปั๊มน้ำมันวันแรกหลังปิดให้บริการเป็นเวลา 7 เดือน กับอีก 5 วัน โดยมีประชาชนนำรถยนต์เข้าประเดิมด้วยการเติมน้ำมัน เป็นคันแรกช่วงเวลาตี 4.09 นาที จากนั้นมีประชาชนมาร่วมแสดงความยินดี ร่วมเติมน้ำมันไม่ขาดสาย เพื่อเป็นการฉลองการเปิดปั๊มน้ำมันในวันแรก
 
ในการนี้ พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ระยะเวลากว่า 7 เดือนที่ผ่านมา เลขาธิการ ศอ.บต. กลับมายืนอยู่ตรงสถานีบริการน้ำมันบางจาก ในเขตจังหวัดปัตตานีแห่งนี้อีกครั้ง ซึ่งเป็น 1 ใน 11 จุดจากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิด เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าเหตุการณ์วันนั้นทำให้ผู้ประกอบการ ประชาชน ตลอดจนทุกภาคส่วน ได้รับความสูญเสียอย่างมาก และวันนี้เป็นวันที่สำคัญยิ่งสำหรับ ผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันบางจากแห่งนี้ ที่ได้กลับมาเปิดให้บริการปั๊มน้ำมันอีกครั้ง และมาร่วมให้กำลังใจพร้อมทั้งขอบคุณที่ถึงแม้ทางผู้ประกอบการจะประสบกับปัญหาแทบสิ้นเนื้อประดาตัว แต่ก็ยังดูแลพนักงานอีกกว่า 20 ชีวิต โดยไม่คิดที่จะทิ้งกัน ส่วนทางด้านของการให้ความช่วยเหลือเยียวยาของหน่วยงานภาครัฐนั้น ได้ทำการช่วยเหลือโดยเร่งด่วน หลังเกิดเหตุเป็นที่เรียบร้อย เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถลุกขึ้นสู้ได้อีกครั้ง
 
ด้าน นางจุฑารัตน์ ไลวานิช ผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันบางจาก ได้ขอบคุณด้วยความซาบซึ้ง หลังจากที่เกิดเหตุการณ์วันนั้น ต้องยอมรับว่าทุกอย่างคือหมดตัว ไม่มีแม้แต่กำลังใจที่จะต่อสู้ แต่ ศอ.บต. และทุกภาคส่วนลงพื้นที่ยื่นมือเข้ามาเร่งให้ความช่วยเหลือ ถือว่าได้รับการเยียวยาได้รวดเร็ว ทำให้ตนเองและครอบครัว รวมถึงพนักงานทุกคน สู้จนถึงที่สุด และกลับมามีวันนี้ได้อีกครั้ง
 
จากนั้นเลขาธิการ ศอ.บต. ได้พบปะขวัญกำลังใจแก่พนักงานบริการปั๊มน้ำมันทุกคนที่เข้ามาทำงานในวันแรก พร้อมให้กำลังใจในการใช้ชีวิต และการทำงานอย่างเต็มที่ให้มีความสุข พร้อมให้ทุกคนเป็นหูเป็นตา ดูแลความปลอดภัยภายในปั๊มน้ำมันด้วย ถ้ามีอะไรผิดสังเกตุโปรดแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รับทราบ เพื่อให้มาตรวจสอบความปลอดภัยต่อไป
 
สำหรับ สถานบริการปั๊มน้ำมันบางจากแห่งนี้ มีบริการครบวงจรไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ ร้านขายของฝาก ร้านสะดวกซื้อ ที่สำคัญคือห้องน้ำที่สะอาดปลอดภัยไว้คอยบริการ ซึ่งจะเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง